‘ธนาธร’ ขอเป็นวัวควายให้ก้าวไกล ส่ง ‘พิธา’ เป็นนายกฯ ด้าน ‘พิธา’ ประกาศ ผูกเสี่ยว ‘ป๊อก’ แล้ว

‘ธนาธร’ ขอเป็นวัวควายให้ก้าวไกล ส่ง ‘พิธา’ เป็นนายกฯ ด้าน ‘พิธา’ ประกาศ ผูกเสี่ยว ‘ป๊อก’ แล้ว จัดเครื่องปรุงผัดเผ็ด ‘งูเห่า’ ล้างบางให้หมดจากขอนแก่น ‘ปิยบุตร’ ชวนกาบัตร ชง ‘3 เปลี่ยน’ เอา ‘3 พ.’ แทน ‘3 ป.’ ตลก ‘ประวิตร’ อาสาก้าวข้าม ค.ขัดแย้ง ทั้งที่ตัวเองคือมูลเหตุ กางระเบียบ กกต. สู้ ‘นักร้อง’ ขู่ยุบพรรค

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่สวนรัชดานุสรณ์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช คณะกรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลครั้งแรกในปีการเลือกตั้งปี 2566

โดยนายธนาธรกล่าวว่า วันนี้ตนเปิดตัวในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนายพิธา และพรรคก้าวไกล หลายคนถามว่าตนหายไปไหนมาไม่เห็นหน้ามาตลอด 3 ปี ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบตนรู้สึกน้อยใจ ที่ไม่มีโอกาสมีอำนาจในสภา เพื่อเข้าไปต่อสู้เพื่อพวกท่าน ตนรู้สึกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองที่ไม่มีโอกาสนี้ และเก็บไว้ในใจเงียบๆ มา 3 ปี ไม่เคยบอกใครมาก่อน เสียดายที่ไม่มีโอกาสมีอำนาจและเอาอำนาจนั้นมารับใช้ประชาชน

“ถึงแม้จะน้อยใจแต่ผมไม่เคยท้อแท้ วันนี้ยังยืนอยู่ตรงนี้ ยังอยู่ในเส้นทางการเมือง ขอพร้อมทำงานเป็นวัวควายให้กับพรรคก้าวไกล เพราะผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่จะนำพาความฝันของพวกเราให้เป็นจริงได้” นายธนาธรกล่าว

Advertisement

นายธนาธรกล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนอยากสรุปให้ฟังก็คือประเทศนี้ โครงสร้างสังคมแบบนี้ มันกดขี่ข่มเหงคนในประเทศ ถ้าอยากสร้างสังคมที่ปรารถนาต้องกล้าชนกับโครงสร้างที่เป็นอภิสิทธิ์ชนนี้ จะแก้ไขปัญหาประเทศไทยได้นอกจากแก้ปัญหาเชิงประเด็นต้องแก้ปัญหาโครงสร้างที่มันกดขี่ประชาชนอย่างนี้ไปพร้อมๆ กัน และ มีพรรคการเมืองเดียวในประเทศนี้ที่มีความกล้าพอที่จะทำอย่างนั้น 1 ปี อนาคตใหม่ 3 ปีก้าวไกล พิสูจน์แล้วมีพรรคการเมืองเดียวที่แก้ปัญหาต้นตอ ต่อสู้กับรัฐราชการรวมศูนย์ ทุนผูกขาด จึงเป็นเหตุผลที่ตนให้กำลังใจพรรคนี้

นายธนาธรกล่าวว่า วันนี้พวกเขาพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเมื่อไม่มีธนาธร ปิยบุตร พรรณิการณ์แล้ว พวกเขาไปได้ไกลกว่าพวกเราอีก ความสำเร็จนี้จะให้ใครไม่ได้นอกจากผู้นำพรรคก้าวไกลคือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะ 1.นายพิธาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ 2.นายพิธาเป็นคนที่เรียนรู้เข้าใจโลกเข้าใจสังคมได้เร็วมาก เป็นคนฉลาด หลักแหลม และ 3.ความกล้าหาญทางการเมือง นายพิธากล้าอภิปรายในเรื่องละเอียดอ่อนและปัญหาสำคัญของประเทศ เป็นการเปิดประตูบานใหม่ให้กับสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ตนจึงเชื่อว่านายพิธาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดในแคนดิเดตนายกฯทั้งหมด และไม่มีใครเหมาะสมเป็นผู้นำเท่านายพิธา

ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ปราศรัยและทักทายเป็นภาษาอีสานว่า ไม่ได้เจอกันนาน ตนชื่อพิธา หัวหน้าพรรค ก.ก. แคนดิเดตนายกฯ ที่จะเป็นนายกฯคนที่ 30 ตนย้ำตลอดว่าการเมืองคือเรื่องของความเป็นไปได้ 4 ปีที่แล้วเขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ว่าพรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่ซื้อซื้อสิทธิขายเสียง และไม่มีหัวคะแนน จะได้ ส.ส.สักกี่คน แต่เราพิสูจน์ว่าพวกเขาพูดผิด เพราะคนขอนแก่นให้คะแนนพรรคอนาคตใหม่ 2 แสนคะแนน ย้อนหลัง 3 ปีที่แล้ว เขากระทืบเราให้จมดิน โดยไม่รู้ว่าเราเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ยิ่งเหยียบจมดินก็ยิ่งโตขึ้น

Advertisement

นายพิธากล่าวว่า วันนี้อยากให้ลองเปลี่ยนจาก 3 ป. เป็น 3 พ. พิธา ปิยบุตร และพรรณิการ์ ดีกว่าไหม วันนี้การเมืองแห่งความเป็นไปได้เกิดขึ้นแล้ว ฉะนั้นเลือกทั้งทีต้องเปลี่ยนประเทศ เลือกก้าวไกลให้ไทยก้าวหน้า ให้การเมืองไม่เหมือนเดิม เริ่มต้นด้วยการเอาทหารออกจากการเมือง ส่งลุงกลับบ้านไปเลี้ยงหลาน หากตนได้เป็นนายกฯ จะแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 100 วันทันที วิสัยทัศน์ของตนไม่เคยเปลี่ยน มีแต่ชัดเจนมากขึ้น

นายพิธากล่าวว่า พรรค ก.ก.จะเปลี่ยนแรงงานอีสานให้กลายเป็นเถ้าแก่ให้ได้ โดยการขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท ของแพงค่าแรงถูกต้องตัดตอน และต้องยุติทุนผูกขาด เราต้องเปลี่ยนอ้อยเป็นสุราพื้นบ้าน นั่นคือเหตุผลที่ตนต้องเข้าสู่อำนาจรัฐ เพื่อทำสิ่งเหล่านี้ได้ ต่อไปนี้ไม่เอาแล้วใจบันดาลแรง แต่ขอให้เลือกตนเป็นนายกฯคนที่ 30 ครั้งที่แล้ว ส.ส.ขอนแก่น พรรคอนาคตใหม่ หลายคนเป็นงูเห่า แต่วันนี้เราเตรียมกระเทียม กระชาย และพริก มาไว้ผัดเผ็ดงูเห่า ดังนั้นไว้ใจได้ว่า จ.ขอนแก่นจะไม่มีงูเห่าแน่นอน คนขอนแก่นต้องกำหนดอนาคตของตัวเองได้ เหมือนเมื่อ 130 ปีที่แล้ว จากนั้นนายพิธากล่าวแนะนำเพื่อเชิญนายปิยบุตรว่า ส่วนคนต่อไปที่จะมาปราศรัย คือคนที่ผูกเสี่ยวกับตนไว้แล้ว ขอเสียงปรบมือหน่อย

ขณะที่นายปิยบุตรปราศรัยตอนหนึ่งว่า 4 ปีก่อน สมัยพรรคอนาคตใหม่ก็มาปราศรัยแบบนี้ พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจเลือกพรรคอนาคตใหม่ 6.3 ล้านเสียง ได้ ส.ส. 88 คน แต่สูตรการคำนวณของ กกต. ทำให้เราเหลือ ส.ส. 81 คน ต่อมาก็ถูกอภินิหารทางกฎหมายตัดสิทธิไป 10 ปี จนเกิดภาพนายธนาธรโค้งคำนับก่อนเดินออกจากห้องประชุมสภา แต่การเป็นผู้แทนฯอยู่ในหัวจิตหัวใจ วันนี้มาในฐานะใหม่ ทรงเกียรติไม่แพ้ผู้แทนฯ คือการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรค ก.ก. และนายพิธา วันนี้เป็นวันแรกที่ได้ใส่เสื้อพรรค ก.ก. เมื่อพรรคเสนอชื่อให้เป็นผู้ช่วย และ กกต.ออกระเบียบว่าตนใส่เสื้อพรรคได้ จึงใส่ออกมา นักร้องทั้งหลายก็อย่าเพิ่งไปร้องเพราะระเบียบ กกต. มีบทนิยามผู้ช่วยหาเสียงว่าคือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ตนแค่ถูกตัดสิทธิรับเลือกตั้ง เราจึงมารณรงค์หาเสียง สนับสนุนให้พิธาเป็นนายกฯ

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า คนอีสานมีเลือดนักสู้กล้าชนกับเผด็จการทุกยุคทุกสมัย เช่น นายแคล้ว นรปติ ส.ส.ขอนแก่น 7 สมัย ส.ว.จากการเลือกตั้ง 1 สมัย และสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ท่านเป็นคนที่ต่อต้านเผด็จการทหารตั้งแต่ต้นจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต และยืนหยัดไม่ยอมร่วมรัฐบาลทหาร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เราจึงยึดจิตวิญญาณนี้ เลือกตั้งพฤษภาคม 2566 เราต้องใช้สิทธิในการเปลี่ยน 3 เปลี่ยน คือ 1.ใช้การเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนขั้วรัฐบาลให้ได้ พอกันทีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่าทำอยู่ ทำต่อ ทำต่อไป มันหมดคำจะพูด และเราต้องเหลือบตามองคนอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ประกาศตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ เปลี่ยนลุคนุ่งกางเกงยีนส์ เต้นทรงอย่างแบด ความจริงเพลงทรงอย่างแบดต้องให้คนอย่างพวกตนร้อง

ส่วนจดหมายเปิดผนึกของ พล.อ.ประวิตรที่บอกจะมาเป็นโซ่ข้อกลางก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็เป็นเรื่องตลก ทั้งที่ตัวเองเป็นมูลเหตุของความขัดแย้ง ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ตกลงจะกินรวบทั้งกระดานตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนี้หรือ ดังนั้นการปรองดองที่กำลังทำ คือการปรองดองจอมปลอม แต่คนที่จะจัดการเรื่องนี้ได้คือนายพิธา เพราะการปรองดองคือการยอมรับความจริงว่ารัฐบาลหารที่เข้ามาแล้วละเมิดสิทธิเสรีภาพอย่างไร และต้องรู้ความจริงของปัญหา ไม่ใช่การซุกขยะไว้ใต้พรม ดังนั้นจึงขอให้สนับสนุนนายพิธา และพรรค ก.ก. เข้าเป็นรัฐบาล

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า 2.การเปลี่ยนรัฐธรรมนูญ ที่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา มี ส.ว.ขวางตลอด ถ้าจะจัดการเรื่องนี้คือต้องเลือก ส.ส.พรรค ก.ก. ไปให้มากที่สุด 250-300 คน ให้ถล่มทลาย และ 3.เปลี่ยนประเทศไทย โดยการเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างที่มีปัญหาเต็มไปหมด และมีปัญหาหมักหมมมานานตั้งแต่ 2548 จึงต้องผ่าตัดใหญ่ โดยการเอาอำนาจและงบประมาณให้ท้องถิ่นให้มาก เพื่อให้เขานำไปแก้ปัญหา พรรค ก.ก.จะเข้าไปแก้ไขที่โครงสร้าง โดยการทำสวัสดิการเพื่อประชาชนทุกคน พี่น้องประชาชนต้องเลือกพรรค ก.ก.สถานเดียว เพราะนี่คือการเมืองแห่งความหวัง และการเมืองแห่งอนาคต

โดยปิดเวทีโดย น.ส.พรรณิการ์ ปราศรัยอย่างดุเดือดว่า “ที่พวกมึงยุบพรรคกู ขออภัย ไม่สำเร็จ วันนี้พวกเรากลับมาแล้ว ที่ขอนแก่น และไม่มีวันสำเร็จ คุณไม่มีสิทธิตัดสิทธิการเมืองของไทยจากใจประชาชนได้ วันนี้พรรคก้าวไกลตั้งเราเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ถ้าจะยุบพรรคก้าวไกล”

“ขอโทษนะคะ ถ้าครั้งนี้ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิพิธา ขอเตือนว่าครั้งหน้า เจอนายกฯรังสิมันต์ โรม ระวังคนบางคนไม่มีแผ่นดินจะอยู่นะคะ ไม่อยากได้นายกฯพิธา อยากได้นายกฮาร์ดคอ แบบรังสิมันต์ โรมใช่ไหม ขอให้โชคดีแล้วกัน จะยุบอีกกี่รอบพวกเราก็ไม่ตาย” น.ส.พรรณิการ์กล่าวอย่างดุเดือด

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกล ยังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ขอนแก่น ทั้ง 11 เขต ได้แก่ นายวีรนันท์ ฮวดศรี เขต 1 นายอิทธิพล ชลธราศิริ เขต 2 เจ้าของร้านอาหารชื่อดังใน จ.ขอนแก่น ซึ่งจะลงสมัครแทนนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ นักกิจกรรมทางการเมือง ที่โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่ามีปัญหาความไม่พร้อมส่วนตัวในเรื่องคดีความทางการเมืองจำนวนมาก นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง เขต 3 นายวุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว เขต 4 นายวิชัย อินทรประสิทธิ์ เขต 5 นายสานิตย์ พระโบราณ เขต 6 นายรุ่งวิชิต ค่ำงาม เขต 7 นายอำนวย วิชาโคตร เขต 8 น.ส.วณัฏศนันท์ ธีรวรรณ เขต 9 นายนิวัตร สระพรม เขต 10 และ น.ส.ณัฏฐณิชา สารบรรณ เขต 11

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image