เปิดชีวิต ‘ดร.บอย’ ลูกครูประชาบาล เคยเป็นคนไร้บ้านที่เยอรมนี สู้จนจบ ป.เอกวิศวะ นิวเคลียร์ฟิวชั่น

สืบเนื่องกรณี นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ จ.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยหาเสียงทางการเมืองในทำนองดูแคลนผู้สมัครจากพรรคการเมืองคู่แข่ง ว่าสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ไม่ได้จบการศึกษาจากต่างประเทศแบบพรรคของตน (อ่านข่าว นิพิฏฐ์ชน ปชป. แฉคลิปซัด ส.ส.ชัยชนะขึ้นปราศรัย ด้อยค่าการศึกษา ทำสนามพัทลุงเดือด)

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา รศ.ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เกียรติภูมิอันยาวนานของมหาวิทยาลัย ที่ได้ผลิตบัณฑิตไปเป็นภูมิปัญญาของสังคม พลังสังคม ได้เป็นที่ยืนยัน และประจักษ์ชัดที่ไม่ต้องพิสูจน์ใดๆ คำพูดราคาถูกไม่อาจทำให้คุณค่าแห่งมหาวิทยาลัยด้อยค่าลงไปได้ (อ่านข่าว อธิการฯ ม.ทักษิณ มาเอง อัด ส.ส.ปชป. หลังปราศรัยด้อยค่า ล่าสุด จ่อเข้าขอขมา)

กระทั่ง นายพลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร หรือ ดร.บอย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พัทลุง พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมภาพถ่าย โดยระบุว่า ตนมีความภาคภูมิใจที่ได้ร่ำเรียน และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทักษิณ

สำหรับประวัติชีวิตนายพลกฤษณ์นั้น จบการศึกษาชั้นปฐมวัยจาก โรงเรียนวัดป่าตอ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์จาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ และปริญญาโทจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

Advertisement
ภาพจากเฟซบุ๊ก ดร.บอย-พลกฤษณ์ คล้ายวิตภัทร

จากนั้น สอบชิงทุนได้ ได้เรียนปริญญาเอกวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีสิรินธร ในสาขานิวเคลียร์ฟิวชั่น

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เผยว่า ดร.บอย ต้องไปเรียนที่เยอรมนี โปแลนด์ และฝรั่งเศส เพราะเมืองไทยสาขานี้ไม่มีห้องทดลอง บางครั้งต้องอดทน นอนตามถนนเป็นคนไร้บ้านที่เยอรมนีบางครั้งต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย จนจบปริญญาเอกด้านวิศวกรรม

ด้านเส้นทางการทำงาน ดร.บอยเคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ กระทั่งดำรงตำแหน่งอดีตผู้ช่วยอธิการบดี รวมถึงเป็น ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง

Advertisement

นิพิฏฐ์ เคยเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุบนเวทีปราศัย ถึงเหตุผลที่เลือก ดร.บอย มาเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง ว่าตนมีเหตุผล 3-4 ประการ ได้แก่

1.เป็นตัวอย่างคนหนุ่มสาว ที่เรียนมาจากโรงเรียนวัดในชนบท จากลูกของครอบครัวครูประชาบาล แต่ด้วยความขยัน อดทน เรียนจบปริญญาเอกในสาขาวิชาที่เรียนยาก ในประเทศไทยน่าจะมีคนจบสาขานี้ประมาณ 20 คน

2.เป็นคนที่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย ต้องการให้คนเป็น ส.ส.มีอาชีพเป็นหลักแหล่งมั่นคง ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว จึงมาทำงานการเมือง ไม่ใช่ไม่รู้มีอาชีพอะไร อยู่ๆ ก็มาสมัคร ส.ส.

3.ไม่เป็นผู้มีอิทธิพล ประชาชนสัมผัสได้

4.ไม่มีการสืบทอดทายาททางการเมืองในระบบครอบครัว เปิดโอกาสให้ลูกหลานชาวบ้านเข้าไปเป็นตัวแทนประชาชน เป็นตัวอย่างว่า ไม่ว่ายากดี มีจนอย่างไร อย่าให้ความจนเป็นอุปสรรคสำหรับการเป็นนักการเมือง ลูกชาวบ้านก็เป็น ส.ส.ได้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image