“ประยุทธ์” ร่วมประชุมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ มั่นใจเกิดประโยชน์ต่อภูมิภาคและประชาคมโลก พร้อมทำความเข้าใจชาติมหาอำนาจเข้าใจแผนปฎิรูปประเทศ วอนคนไทยร่วมร่วมมือกัน ลดความขัดแย้ง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมประชุมอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ ว่า เชื่อว่าจะได้ประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ และการมองประเทศไทยว่าจะไปข้างหน้าอย่างไร จะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มประชาคมโลกอื่นได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องเริ่มจากการประชุมอาเซียน-สหรัฐ ไทยเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียน การทำงานของรัฐบาลในวันนี้จะเป็นไปในลักษณะอาเซียนบวกหนึ่ง ที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนสร้างความเชื่อมโยงเพื่อให้ทุกประเทศในอาเซียนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงประเทศเพื่อนบ้านที่มีความแตกต่างเรื่องรายได้และการพัฒนา ซึ่งจะเป็นไปตามหลักการของอาเซียน 10 ประเทศที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
“การมาในวันนี้จะแสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่ของมิตรประเทศ สหรัฐอเมริกาที่มองอาเซียนตามนโยบายของสหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของไทยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ชาติมหาอำนาจเข้าใจว่าเราต้องเดินหน้าประเทศให้ได้ในช่วงที่อยู่ในการปฏิรูปประเทศ ซึ่งมีแผนต่าง ๆ ดำเนินการ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ดีใจที่ได้พบกับผู้ประกอบธุรกิจทำงานด้านวิทยาศาสตร์ในองค์กรต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งพร้อมร่วมมือกับประเทศไทย ที่กำลังพัฒนาและกำลังจะปฏิรูปในหลายด้าน ซึ่งเรามีศักยภาพ จึงขอให้คนไทยทุกคนร่วมมือกัน ถ้าเราเอาปัญหามาทะเลาะหรือขัดแย้งจะเกิดความเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติ ขอใช้เวลาที่มีอยู่ในการเดินหน้าประเทศต่อไป
“ต้องเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารถึงกันให้ได้ และจะนำสิ่งที่หารือในวันนี้ไปสู่การพัฒนาที่ต่อเนื่อง รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ที่ผมให้นโยบายสอดแทรกวิชาที่เกี่ยวกับอาชีวะ เนื่องจากพบว่าบางคนไม่รู้ความต้องการของตัวเอง นอกจากนี้ ยังรวมถึงการวิจัยและการผลิตบุคคลให้ตรงต่อความต้องการของประเทศเรื่องของบุคคลได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีรวบรวมเรื่องทุนวิจัยทั้งของรัฐ เอกชน และต่างประเทศว่าผลิตคนตรงต่อความต้องการของประเทศหรือไม่ ซึ่งมีทุนในทุกระดับ แต่ผู้รับทุนจะต้องกลับมารับใช้ประเทศ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาในอนาคต “ นายกฯกล่าว
นายกฯกล่าวว่า ได้สั่งการให้สำรวจผู้ที่รับทุนและจบการศึกษาไปแล้วไปทำอะไร อยู่ที่ใด ซึ่งบางส่วนสามารถนำบุคคลเหล่านั้นกลับมาต่อยอด รวมทั้งกรณีผู้ที่มีงานทำอยู่แล้ว แต่สามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานให้กับประเทศ เพราะคือประชารัฐ ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่ทำงานในต่างประเทศและทำงานอยู่ต่างประเทศสามารถรวมกลุ่มกันได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีกลุ่มคณะทำงานร่วม รัฐ เอกชน ประชาชน หรือประชารัฐ ภายใต้กรอบคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีอยู่แล้ว 12 คณะ จึงอยากให้กลุ่มคนไทยที่มีศักยภาพและทำงานในต่างประเทศ มาเป็นกลุ่มที่ 13