09.00 INDEX ภาพ แห่งการเปลี่ยนประเทศ มากับ ภาพ ‘นายกรัฐมนตรี’
ยิ่งวันเลือกตั้งกระชับเข้ามามากเพียงใด ความละเอียดอ่อนและอ่อนไหวในการจะเลือกใครเป็น ”นายกรัฐมนตรี” จะยิ่งแสดงความหมายและบทบาทมากขึ้นเพียงนั้น
เพราะจะเป็นการพิสูจน์ว่า รายชื่อที่แต่ละพรรคเสนอมาเป็น “แคนดิเดต” เข้าใกล้กับความเป็นจริงหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จากพรรคเสรีรวมไทย
ความแหลมคมเป็นอย่างมากก็คือ จะสามารถประกบกับคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ
หรือแม้กระทั่งกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้หรือไม่
ปมอันสร้างความแหลมคมเป็นอย่างสูงในการเลือกก็คือ ปมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอตนเองเป็นทางเลือกจากการยืนยันผ่านความต้องการ ”ไปต่อ” ในทางการเมือง
คำถามก็คือ คนที่จะเข้าชิงสร้างความเหนือกว่าได้อย่างไร
ต้องยอมรับว่าการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 8 ปี ไม่ว่าจะในห้วงหลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ไม่ว่าจะในห้วงหลังเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562
เป็นทั้ง “จุดแข็ง” และเป็นทั้ง ”จุดอ่อน” ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ในขณะเดียวกัน
เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็แสดงอย่างแจ้งชัดว่า เป้าหมายของตนคือ นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั่นย่อมหมายถึงความจำเป็นในการหยุดนายกรัฐมนตรีคนที่ 29
เนื่องจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา แม้จะเคยขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแล้ว แต่ก็ยังยืนยันที่จะเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ก็มีความมุ่งมั่น ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็มากด้วยความแน่วแน่อย่างมั่นคง
เวลา 2 เดือนที่เหลือก่อนถึงเดือนพฤษภาคม 2566 จึงเป็นเวลา 2 เดือนอันทรงความหมายเป็นอย่างสูง เป็นคำถามถึงทางเลือกของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ
นั่นก็คือ ประเทศไทยจะเหมือนเดิม หรือจะ ”เปลี่ยนแปลง”
อย่าว่าแต่ฝ่ายที่ต้องการทะยานไปยังตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เลยที่จะเสนอภาพใหม่ของประเทศ แม้นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ก็จำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ภาพแห่ง ”การเปลี่ยนแปลง” ต่างหาก คือ ภาพที่ต้องสร้างขึ้นให้เป็นที่ยอมรับในหมู่ ”ประชาชน”
ใครจะ ”สามารถ” พรรคใดจะ ”สามารถ” ทำได้ก็ย่อมกำชัย
