| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คอลัมน์หน้า 3 : บทบาท การเมือง จาก‘ชูวิทย์’ ถึง ‘จตุพร’ ในแสง สปอตไลต์
ระหว่างการออกโรงของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับการออกโรงของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กำลังอยู่ในการประเมิน วัดผล
ไม่ว่าจาก “เพื่อไทย” ไม่ว่าจาก “ภูมิใจไทย”
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เมื่อประสบกับการขุดคุ้ยของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ท่าทีพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย เหมือนกัน
นั่นก็คือ ไม่ตอบโต้อย่างเป็นทางการ อาจจะมีบางคนออกมาแสดง “ปฏิกิริยา” บ้างแต่ก็เป็นเรื่องในเชิง “ปัจเจก”
พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย นิ่ง ไม่ต่อปากต่อคำ
เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งก็สัมผัสได้ในผลสะเทือนที่แตกต่างกัน ต่อพรรคเพื่อไทย และต่อพรรคภูมิใจไทย
ตรงนี้แหละที่เป็น “ปัจจัย” สำคัญและละเอียดอ่อน
หากมองจากพื้นฐาน ไม่ว่าจะมองผ่าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ว่าจะมองผ่าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ มีความแตกต่าง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย
ตรงกันข้าม นายจตุพร พรหมพันธุ์ เคยเป็นคนของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย
เป็น “มือทำงาน” ระดับ “นำ”
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553
ถือได้ว่าเป็น “คนวงใน”
เมื่อออกมาเปิดโปงและโจมตี เนื้อหาและข้อมูลที่นำเสนอน่าจะมีผลสะเทือนในทางที่สกัดขัดขวางยุทธศาสตร์ “แลนด์สไลด์” ได้
แต่ทำไมคะแนนพรรค คะแนน “อุ๊งอิ๊ง” ยังนำโลด
สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย แตกต่างไปจากสถานการณ์ที่พรรคภูมิใจไทยกำลังประสบอย่างกลืนไม่เข้า คายไม่ออก
เนื่องจาก “บารมี” จากกรณี “ธุรกิจสีเทา”
เมื่อ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปงกรณีของ “ตู้ห่าว” รวมถึงกระบวนการของบ่อนพนัน “ออนไลน์” ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง
“บารมี” นี้ส่งผลสะเทือนถึงกรณี “ภูมิใจไทย”
แม้จะมีการสร้างคำถามว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ “รับงาน” มาจากพรรคและกลุ่มใดทางการเมืองหรือไม่
แต่ก็มิอาจสกัดและขัดขวางได้
ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งมากเท่าใด บทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็จะยิ่งกลายเป็นคำถามต่อพรรคภูมิใจไทยมากเท่านั้น
นี่คือโจทย์ของพรรคภูมิใจไทย
ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าบทบาทของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ว่าบทบาทของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ล้วนอยู่ในสายตาของสังคม
เป็นเรื่อง “ร้อน” สัมพันธ์กับ “ผลประโยชน์”
ในท่ามกลางการเคลื่อนไหวเพื่อตรวจสอบ “คนอื่น” จึงทั้ง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็ถูก “ตรวจสอบ” ไปด้วย
นี่คือความเที่ยงธรรม นี่คือความเป็นจริง
