อดีตรมว.คลังเปิด 4 ปัญหา ‘รัฐบาลหน้า’ เจอแน่ แนะอย่าวิ่งตามแก้เหมือนโควิด จี้ทุกพรรคตระหนักภูมิรัฐศาสตร์โลก

อดีต รมว.คลัง เปิด 4 ปัญหาที่รัฐบาลหน้าต้องเผชิญ ต้องเตรียมรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว ก๊าซ-น้ำมันพุ่งจากพิษสงคราม หากไทยจะค้าขายกับจีน ต้องกำหนดการใช้เงินดิจิทัลหยวนและพัฒนาการขนส่งสินค้าทางบกไทย-จีนโดยเร่งด่วน

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม เวลา 10.00 น. ที่ห้องสีดา โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ สภาที่ 3 ร่วมกับคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดเสวนาวาระประเทศไทย หัวข้อ ความสำคัญของภูมิรัฐศาสตร์โลก กับเศรษฐกิจและการเมืองประเทศไทย โดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (SVN.), รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการวิทยาลัยนานาชาติปรีดีพนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และนักวิชาการอิสระร่วมอภิปราย

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวเปิดงานว่า ขณะที่ประเทศไทยจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ทุกพรรคการเมืองมุ่งหาเสียงแต่ละเลยการพูดถึงภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างจีนจับมือกับอินเดีย และที่ผ่านมาไทยถูกครอบงำโดยชาติตะวันตก ดังนั้น นักลงทุน พ่อค้า หรือรัฐบาล เหมือนอยู่ระหว่างเขาควาย หรือทางสองแพร่ง อยู่ระหว่างอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจ เพราะฉนั้นการค้าขายหรือลงทุนจึงต้องเข้าใจขั้วอำนาจในโลกและการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจต่างๆ ด้วย

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขบวนการภูมิรัฐศาสตร์ของโลกเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลหน้าจะเผชิญ 4 ปัญหา

Advertisement

1) เศรษฐกิจชะลอตัว เกิดจากปี 2551 วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในชาติตะวันตก ต่อเนื่องวิกฤตโควิด-19 และชาติตะวันตกต่างแก้ปัญหาแบบเดียวกันคือ ทุ่มเงินให้ประชาชน เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงอย่างไม่ลดละ ธนาคารชาติตะวันตกเลือกขึ้นดอกเบี้ยลดเงินเฟ้อ จึงเป็นการใช้นโยบายการเงินแก้เป็นหาผิดพลาด เพราะปัญหาเกิดจากนโนยาบายการคลัง คือเอานโยบายการเงินไปแก้ปัญหานโยบายการคลัง จึงทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว การค้าระดับโลกลดลง อย่างจีน ส่งออกลดลงกว่า 6% และนำเข้าลดลงกว่า 10%

2) ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเทียบกับรัสเซีย โดยรัสเชียแม้โดนแซงก์ชั่นจากหลายประเทศ แต่รัสเซียส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่จำเป็นของโลก ประคองได้ยาวกว่า แต่สหรัฐทุ่มเงินให้ยูเครนในการทำสงครามยูเครน ขณะที่ประเทศยุโรปซื้อก๊าซจากรัสเซียในราคาต่ำกว่าราคาโลกถึง 1 ใน 10 หรือมีต้นทุนใช้ก๊าซต่ำ แต่เมื่อเกิดสงครามรัสเซียรุกรานยูเครน ชาติยุโรปแซงก์ชั่นโดยยกเลิกซื้อก๊าซรัสเซีย ทำให้ต้นทุนก๊าซในครัวเรือนยุโรปสูงขึ้นก่อนมีสงครามรัสเซีย-ยูเครนแล้วถึง 40% ดังนั้น ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกสูงขึ้น กระทบคนไทยเพราะรัฐบาลเปลี่ยนเพดานราคาก๊าซหุงต้มปัจจุบัน โดยนำไปโยงกับก๊าซของประเทศซาอุดีอาระเบีย หากราคาก๊าซในตลาดโลกสูงขึ้น ราคาก๊าซหุงต้มในไทยสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ แม้รัสเซียจะประสบปัญหาในการหาลูกค้ามาซื้อน้ำมันสำเร็จรูป แต่ชาติยุโรปที่แซงก์ชั่นรัสเซียก็แย่งกันซื้อน้ำมันตามราคาตลาดโลกและจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเเพงขึ้นอีกด้วย ซึ่งกระทบกับประเทศไทยแน่นอนเช่นกัน อีกทั้ง ราคาอาหารก็จะสูงขึ้น จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่ง 2 ประเทศนี้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ของโลก รวมส่งออกข้าวบาร์เลย์ 29% ขณะน้ำมันดอกทานตะวันส่งออก 79% ของโลก

3) โลกการค้าแบ่งเป็น 2 ค่าย ตะวันออกกับตะวันตกคือสหรัฐกับจีน ซึ่งจีนเร่งขยายอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากไทยจะค้าขายกับจีน ควรกำหนดการใช้เงินดิจิทัลหยวนของจีน ตลอดจนพัฒนาการขนส่งสินค้าทางบกไทย-จีนโดยเร่งด่วน

Advertisement

4) ปัญหาเรื่องโลกร้อน ที่ประเทศตะวันตกโดยเฉพาะยุโรปจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ผลิตจากประเทศที่มีการปล่อยคาร์บอนเยอะ หมายความว่าประเทศใดมีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตไฟฟ้ามากก็จะต้องเสียตรงนี้และมันจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้าไทยไปยังยุโรป เพราะว่าประเทศไทยยังผลิตไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในสัดส่วนที่มากอยู่

“เพื่อไม่ให้ประเทศไทยวิ่งตามปัญหาเหมือนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19 ที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองตระหนักถึงปัญหาในเรื่องของ Geopolitics และมีนโยบายที่จะเสนอประชาชนเพื่อรับมือปัญหานี้อย่างไร” นายธีระชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image