‘อนุทิน’ ยันนิรโทษกรรม ต้องมีเงื่อนไข ภท.เห็นด้วย แต่ต้องไม่ช่วยคนโกงบ้านเมือง

‘อนุทิน’ ชี้ ‘นิรโทษกรรม’ ต้องมีขอบเขต ย้ำจุดยืน ไม่ช่วยคนทุจริตบ้านเมือง

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวทีแรกของแคมเปญ “มติชน : เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ซึ่งจัดที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ (รางน้ำ) ภายใต้หัวข้อ “ย้ำจุดยืน ชูจุดขาย ประกาศจุดแข็ง” ที่มีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวในหัวข้อว่า เห็นด้วยหรือไม่ว่า การนิรโทษกรรม เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่จะพาสังคมไทยออกจากความขัดแย้ง ว่า ถ้าเห็นด้วยควรจะเอาแค่ไหน ครอบคลุมไปถึงใครบ้างว่า พรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยมาโดยตลอด สำหรับการนิรโทษกรรมผู้ที่มีความต่างทางการเมือง แต่เราไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมผู้ที่ทำการทุจริตต่อบ้านเมือง คอร์รัปชั่น และต้องการสร้างให้เกิดความแตกแยกอย่างตั้งใจ ทำลายทรัพย์สินต่างๆ ของบ้านเมือง

แต่ในเรื่องของการนิรโทษกรรมความเห็นที่แตกต่างกัน ตรงนี้พรรคภูมิใจไทย เห็นด้วยมาโดยตลอด และการนิรโทษกรรมได้อย่างชัดเจนมากสุดคือเราต้องดูเป็นกรณีๆ ไป อย่าให้ผู้ที่ได้ออกมาแสดงความเห็นใช้สิทธิ์ ตามหลักประชาธิปไตย เรียกร้องให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม ถ้าเขาออกมาแล้ว เกิดสถานการณ์พาเขาไปโดยที่เขาไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง คนเหล่านี้สมควรได้รับการนิรโทษกรรม

Advertisement

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ในเรื่องทางการเมืองก็เช่นกัน ถ้าเป็นเรื่องของความเห็นต่าง เช่น บางคนไปใช้สิทธิไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรนูญ ถือเป็นสิทธิของเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนประชาชน มีความพยายามหลายครั้ง ที่ทำให้เกิดการลงโทษ ตัดสินสิทธิอะไรต่างๆ ในการตีความของกฎหมาย สิ่งเหล่านี้จะทำให้ยิ่งเกิดความขัดแย้ง และยิ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกันมากขึ้น

มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ ตนคิดว่าปัจเจกชน วิญญูชน พอจะทราบได้ว่า อันไหนที่มีความเป็นธรรม อันไหนที่มีความไม่เป็นธรรม ตนคิดว่าสิ่งที่เราควรจะดำเนินการจากนี้เป็นตนไป การเลือกตั้งปี 2566 ที่จะเกิดขึ้นภายใน 2 เดือนข้างหน้าโดยประมาณ ก็น่าจะเป็นการรีเซตระบบของการอยู่ด้วยกันในประเทศนี้ ระบบของสังคม ระบบของการเมือง ให้เกิดความชัดเจน ความเท่าเทียมลดความหลื่อมล้ำความขัดแย้งให้มากที่สุดได้

“ดังนั้นในเรื่องที่ผมค่อนข้างจะมีความกังวลคือ เราจะปล่อยให้โอกาสที่การเลือกตั้งครั้งนี้ในรอบ 10 ปี จะเป็นการเลือกตั้งที่ถือว่า เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด เพราะไม่มีเรื่องของตัวช่วยต่างๆ ในเรื่องของการเปลี่ยนผ่านของระบอบเข้ามาเกี่ยวข้อง และพรรคการเมืองก็ควรจะมีความเห็นร่วมกันก่อนว่า ในทางประชาธิปไตยสิ่งไหนที่ควรจะได้รับการแก้ไขก่อนเพื่อให้สังคมเดินหน้าต่อไปด้วยความเข้าใจกัน

Advertisement

ไม่ต้องไปบอกว่า ความสงบสุขต้องเห็นพ้องต้องกันทุกคน แต่ให้มีความเข้าใจกฎกติกามารยาทในการที่จะนำพาประเทศไทยไปจะเป็นอย่างนี้ ถ้ามีความเห็นขัดแย้งกันใช้เวทีไหนแก้ปัญหา ใช้เวทีสภา หรือใช้เวทีที่มีตามหลักรัฐธรรมนูญ ไปเกิดเวทีปราศรัยที่ไหนก็ทำตามกฎหมาย แล้วยึดถือตามหลักกฎหมายทุกประการก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ในส่วนที่เป็นการนิรโทษกรรม ความเห็นต่างทางการเมืองต้องมี แต่เรื่องนิรโทษกรรมเรื่องทุจริต การทำให้บ้านเมืองแตกแยกโดยความจงใจ การทำลายทรัพย์สินของบ้านเมือง ทำร้ายประชาชน ทุจริตคอร์รัปชั่น สิ่งเหล่านี้พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วย” นายอนุทินกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image