“นฤมล” รับ กกต.แบ่งเขตใหม่กระทบ พปชร.ในบางเขต กทม. แต่ไม่หวั่น สู้เต็มที่ ย้ำเป้าหมาย 12 ที่นั่ง

“นฤมล” รับ กกต.แบ่งเขตใหม่กระทบ พปชร.ในบางเขต กทม. แต่ไม่หวั่น สู้เต็มที่ ย้ำเป้าหมาย 12 ที่นั่งหรือมากกว่า 

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 มีนาคม ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ กทม. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ รวมถึงพื้นที่ กทม.ด้วยว่า ตอนนี้ทางพรรคได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า กกต.มีการประชุมสรุปแบบแบ่งเขตแล้ว ซึ่งยอมรับว่าน่าจะมีกระทบบ้างในบางเขตที่ต้องขยับ เพราะมีการทับซ้อนของผู้สมัคร ส.ส.ในบางเขต ขณะนี้กำลังหารือกันอยู่ เมื่อเช้าวันที่ 16 มีนาคม ได้หารือกับนายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ กทม.ว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ว่าจะแบ่งเขตแบบไหน พปชร.พร้อมทุกสถานการณ์ และพรรคจะพิจารณาเรื่องตัวผู้สมัคร ส.ส.ให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางคนไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต มีการเตรียมเรื่องงานอย่างอื่นไว้ให้หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ต้องมีการเตรียมงานไว้ให้ แต่รอให้สรุปชัดเจนก่อน

นางนฤมลกล่าวว่า ในส่วนการปราศรัยของ พปชร.ที่ลานคนเมือง กทม. ในวันที่ 18 มีนาคมนี้ กิจกรรมจะเริ่มในช่วงเย็น และด้วยเวลาที่มีจำกัด คงจะมีเฉพาะผู้บริหารของพรรคที่ได้ขึ้นไปปราศรัยคนละ 15 นาที จะมีการแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 33 คน นอกจากนี้ ในวันนั้นจะมีเวทีปราศรัยย่อยของผู้สมัครในแต่ละโซนซึ่งจะแสดงวิสัยทัศนในสิ่งที่อยากจะผลักดันในสภา

Advertisement

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร.จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงใน กทม.หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า เราต้องพิจารณากันก่อน เพราะพื้นที่อื่นทั่วประเทศอยากให้หัวหน้าพรรคไปเยอะ อย่างในวันที่ 17 มีนาคม ต้องไป จ.นราธิวาส วันที่ 18 มีนาคม มีปราศรัยที่ กทม. วันที่ 20 มีนาคม ไป จ.เชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งเป็นห่วงท่านเหมือนกันที่เดินสายหนัก แต่ท่านหัวใจเต็มร้อยที่อยากจะไปช่วยทุกเวที แต่บางจุดอาจต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วย และมีทีมทัพหลวงของพรรคเข้าไปช่วย

เมื่อถามว่า พื้นที่ กทม.ยังตั้งเป้าหมาย 12 ที่นั่ง เท่ากับการเลือกตั้งครั้งก่อนอยู่ใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า อย่างน้อยขอ 1 โหล 12 ที่นั่งเหมือนเมื่อปี 2562 หรือมากกว่าเดิม ส่วนเรื่องการแข่งขันในแต่ละเขตของ กทม. เราเชื่อว่าทุกเขตแข่งขันสูง เพราะทุกพรรคทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ และเราสู้เต็มที่ จุดขายของเรา คือ พลังใหม่ เพราะแต่ละคนมาด้วยความตั้งใจ อุดมการณ์ เป็นคนรุ่นใหม่ที่พาประเทศไปข้างหน้า ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของเราคือ อนาคตของประเทศ อนาคตของ กทม.

เมื่อถามถึงสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้งหมายถึงจับมือกับพรรคใดก็ได้ใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า คนไปตีความว่า พปชร.ว่าจะจับมือกับใครก็ได้ ซึ่งไม่ใช่ เราเคารพเสียงของประชาชน เคารพเสียงส่วนใหญ่ หากใครรวบรวมเสียงได้และเป็นเสียงส่วนใหญ่ถึงจะร่วม นี่เป็นหลักการของ พปชร. อีกทั้งสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้งเราใช้มาตั้งแต่ปี 2562 ไม่แบ่งสี ไม่แบ่งฝ่าย ก้าวข้าม ไม่ทะเลาะกับใคร ทำงานเพื่อส่วนรวม ร่วมกับเสียงส่วนใหญ่ นี่คือ อุดมการณ์ของเรา เมื่อถามย้ำว่า คนไปตีความว่า พปชร.จะจับมือ เมื่อถามย้ำว่า อย่างนี้ก็มีโอกาสที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้ใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ไม่มี เราไม่ได้พูดอย่างนั้นเลย ย้ำว่าต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image