‘อนุทิน’ ยอมรับกินข้าวกับ ‘บิ๊กป้อม’ คุยเรื่องการเมืองอยู่แล้ว

‘อนุทิน’ ยอมรับกินข้าวกับ ‘บิ๊กป้อม’ คุยเรื่องการเมืองอยู่แล้ว

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 มีนาคม ที่ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เดินทางเป็นประธานในเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการชี้แจงหลักเกณฑ์ วิธีการเบิกจ่ายเงินค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ผ่านระบบ e-Social Welfare และส่งเสริมการใช้แอปพลิเคชัน Smart อสม. เขตสุขภาพที่ 7 และ 8 ปีงบประมาณ 2566

โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายสําคัญ ให้ข้อแนะนําการดําเนิน การด้านสุขภาพ กับ อสม. เขตสุขภาพที่ 7 และ 8 และรับฟังปัญหา อุปสรรคในการดําเนินงานปฐมภูมิจากตัวแทน อสม. เขตสุขภาพที่ 7 และ 8 และให้ข้อแนะนําในการ ดําเนินการพัฒนาระบบงาน ซึ่งการลงพื้นที่มาในครั้งนี้ นายอนุทินฯ ระบุว่า ถือโอกาสในการร่ำลาเพื่อนพี่น้องในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ร่วมงานด้วยกันมาตลอดระยะเวลา 4 ปี ด้วย

โดยก่อนการเปิดงานนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับภาพการนั่งทานข้าวร่วมกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกจับตาว่า เป็นการเจรจาจับขั้วทางการเมืองระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ว่า เราทำงานด้วยกันมาตั้ง 4 ปีแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้น พลเอกประวิตรฯ ก็เป็นหัวหน้าพรรค เป็นแกนนำหลักของรัฐบาล ตนเองก็เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พวกเราทุกคนก็มีความเคารพนับถือท่าน มีโอกาสได้ไปรับประทานอาหารที่บ้านท่านก็ปีละ 4-5 ครั้ง

Advertisement

ครั้งนี้ก็ถือว่าใกล้ครบวาระ ก็เลยชวนกันหาท่าน ไปขออาหารท่านกินมื้อหนึ่ง ท่านก็บอกว่า วันพุทธให้รีบมาเลย ซึ่งการไปมีการคุยกันเรื่องการเมืองแน่นอน ไม่ได้คุยเรื่องอื่น แต่เป็นการไปคุยอัพเดทกัน ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ท่านก็ถามเรา มีสิ่งใดที่จะหาทางสร้างความร่วมมือกันเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง นั้นคือเรื่องที่พูดคุยกัน ย้ำว่าทั้ง 2 พรรคร่วมงานกันมา 4 ปีแล้ว หากไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกัน ก็มีโอกาสสูงที่เราจะร่วมงานกันต่อไป จับมือกันบ้าง ร่วมมือกันบ้าง ทำให้เกิดความเป็นปึกแผ่นของรัฐบาล ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ ทำให้ภารกิจต่างๆ ที่เราร่วมกันทำมาตลอดระยะเวลา 4 ปี อะไรที่ยังค้างคาอยู่ หากเราสามารถทำงานร่วมกันต่อไป ก็สามารถผลักดันให้เกิดความสำเร็จให้เร็วขึ้น เราก็ต้องพูดเผื่อไว้ก่อน

นายอนุทิน ยังตอบคำถามกรณีที่ พ.ต.ท.กิตติกานต์ หรือ สารวัตรกานต์ อายุ 51 ปี ตำแหน่งสารวัตร สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล คลุ้มคลั่งกราดยิง เหตุเกิดภายในบ้านพักบ้านมั่นคง ซอยจิระมะกร ซอยย่อยซอยสายไหม 46 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดล้อมกว่า 28 ชม. ก่อนจะสามารถยุติเหตุการณ์ดังกล่าวได้ โดยสารวัตรกานต์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณขา ถูกนำส่งโรงพยาบาลภูมิพล ก่อนนำตัวเข้าห้องไอซียู และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งช่วงหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้มีการนำอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินเข้าไปถ่ายภาพภายในห้องพักของสารวัตรกานต์ ทำให้ปรากฏภาพของกองบุหรี่และวัตถุสีฟ้าคล้ายบ้องกัญชา

จนถูกโยงว่า ผู้ก่อเหตุมีการใช้กัญชาจนเกิดอาการทางประสาท รวมทั้งภาพต้นกัญชาที่ถูกปลูกไว้บริเวณด้านหลังห้องพัก โดยนายอนุทิน ยืนยันว่า คุณสมบัติของกัญชาไม่ได้ออกฤทธิ์ไปในทางนั้น หากดูในภาพก็จะเห็นว่า บุหรี่กองเกลื่อน และยังมีของมึนเมาอื่นๆ อีกเยอะแยะ อย่าเพิ่งไปโทษกัญชา สิ่งที่เห็นว่าเป็นท่อนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นบ้องกัญชาจริงหรือเปล่า ในบ้านก็เห็นว่ามีการปลูกกัญชาอยู่ต้นเดียว และไม่รู้ว่าต้นชาที่ปลูกไว้มีอายุเท่าไหร่ ต้องดูรายละเอียดผลชันสูตร เราก็จะทราบข้อเท็จจริง ถ้าดูจากการเสพของมึนเมาจากภาพ ก็อย่าไปโทษกัญชาเลย เอาเป็นว่าเราอย่าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก เรื่องของการบำบัดฟื้นฟูผู้ที่มีภาวะสุขภาพจิตที่ไม่นิ่ง ก็จะต้องพยายามรักษาให้ได้มากขึ้น

Advertisement

ส่วนกรณีล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น คือ กรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมให้ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต แจ้งความดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้น นายอนุทินฯ กล่าวสั้นๆ ว่า ตอนนี้ตนเองยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพราะอยู่ระหว่างลงพื้นที่ต่างจังหวัด คาดว่าทางพรรคฯ คงจะมอบหมายให้ทางโฆษกพรรคฯ เป็นผู้แถลง แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เป็นสิทธิของแต่ละคน คงจะออกมาเป็นมติพรรคไม่ได้ ใครรู้สึกว่าถูกละเมิด ถูกกระทำ หรือได้รับความไม่ถูกต้อง ก็เป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะไปดำเนินการ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image