บิ๊กตู่ ไปเชียงใหม่ รับฟังปัญหาหมอกควัน-กลุ่มชาติพันธุ์มอบกุหลาบ ให้กำลังใจสุดอบอุ่น
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย บริเวณถนนทางขึ้นดอยสุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดแรกเข้าถวายเครื่องสักการะและกราบอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีประชาชนชาวเชียงใหม่และกลุ่มชาติพันธุ์ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นพร้อมมอบกุหลาบสีแดงเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางขึ้นไปปฏิบัติภารกิจยังวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
ซึ่งที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พล.อ.ประยุทธ์เข้าสักการะท้าวเวสสุวรรณ และฤๅษีวาสุเทพ และกราบสักการะพระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงใหม่ ถวายผ้าไตร ร่วมเวียนเทียน และห่มผ้ารอบพระธาตุดอยสุเทพ
ในการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับฟังการรายงานสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ จุดชมวิววัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร พร้อมกล่าวชื่นชมจังหวัดเชียงใหม่ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี และว่า รัฐบาลมีการหารือการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ส่วนที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เริ่มมีข้าราชการส่วนท้องถิ่น ในชุดสีกากี และประชาชนจาก 25 อำเภอ ทยอยเดินทางมาเป็นกลุ่มๆ โดยมีสัญลักษณ์ คือ สวมเสื้อสีขาวทั้งชายและหญิง ซึ่งอยู่ในความดูแลจากพื้นที่เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัด มากกว่า 1,500 คน
นางดารารัตน์ จากกลุ่มชาติพันธุ์บ้านแม่ตะมาน อ.แม่แตง กล่าวว่า ไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีมาก่อน และอยากมาเห็นตัวจริง ก็รักนะ ก่อนที่จะยิ้มอายๆ
ส่วนบางกลุ่มเป็นวัยรุ่นชาติพันธุ์กะเหรี่ยง มีการเตรียมนำป้ายข้อความ อาทิ ฮักลุงตู่แต้ๆ เจ้า ยินดีต้อนรับลุงตู่ เป็นต้น พร้อมระบุว่า มาจากบ้านไม้สะหรี อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน
ในขณะที่ด้านโถงท่าแพ ซึ่งเป็นจุดต้อนรับนั้น มีชุดฟ้อนเล็บจากชุมชนต่างๆ จำนวนกว่า 250 คน มาซ้อมเพื่อฟ้อนต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ ส่วนการป้องกันรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นั้น มีการตั้งด่านตรวจตราบุคคลต้องสงสัยหลายจุดในเส้นทางอย่างเข้มข้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนภายในบริเวณศูนย์ประชุม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเดินสำรวจพื้นที่ พร้อมตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ กระเป๋าถือของประชาชนทุกคนที่จะเข้าไปภายในอาคาร โดยเป็นไปในลักษณะเข้าออกทางเดียว
