“บิ๊กตู่” ตอบไม่ได้ตัดสินใจผิดหรือถูกจากการโดดเข้าสู่สนามการเมือง ปัดตอบลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ เมินข่าวบิ๊กป้อมจับมือภูมิใจไทย บอกอย่ามาถาม เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ระบุของขวัญวันเกิดที่อยากได้ขอให้ประเทศชาติสงบสุขไม่แตกแยก
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 20 มีนาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ยืนยันอีกครั้งว่าในเรื่องการยุบสภาให้รอการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะเป็นในวันเดียวกันนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า “ให้รอ” อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่าจากนี้ไปก็จะทำหน้าที่เป็นรัฐบาลต่อ
“การที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ขอยังไม่พูดอะไร รอให้ราชกิจจานุเบกษาออกมาก่อนแล้วกัน วันนี้ผมยังเป็นรัฐบาลอยู่ จะเลิกเป็นรัฐบาลกันเลยหรือไง และยังไม่รู้ว่าจะอยู่จนถึงเมื่อไหร่ ก็ต้องรอการเลือกตั้ง และหากการจัดตั้งรัฐบาลทำได้เร็วมันก็จะเร็ว”
เมื่อถามว่าเป็นไปได้ใช่หรือไม่ ว่าราชกิจจานุเบกษาจะออกประกาศในวันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับหัวเราะพร้อมกล่าวว่า ก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวก็ออก ออกเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถามว่าขั้นตอนการทูลเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการไปแล้วทั้งหมดใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยอมรับว่า “ก็คงต้องอย่างนั้น เป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องทำก่อน ขั้นตอนต่างๆ ได้ทำไปหมดแล้ววันนี้ก็เหลือเพียงการรอ รอ”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คงไม่จำเป็นจะต้องกล่าวทิ้งท้ายอะไรในวันนี้ เพียงแต่ฝากให้ช่วยกันดำเนินการต่อไปในช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการก็ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน และก็ขอให้กำลังใจกับรัฐบาลหน้า ในการทำงานให้เข้ากรอบที่เราทำในปัจจุบันให้มากที่สุด เพราะเป็นการทำให้เกิดความมั่นคงยั่งยืนให้กับประเทศของเรา ซึ่งทุกพรรคเราก็ทำมาด้วยกันที่ผ่านมา ทุกพรรคก็ทำงานร่วมกันนโยบายที่ออกมาทั้งหมดทำมาสี่ปี ก็เป็นนโยบายที่เห็นชอบร่วมกันในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หวังว่าทุกคนจะทำความเข้าใจให้ดี ไม่ใช่ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไปพูดอย่างนั้น ไม่ได้มันไม่ถูก เพราะทุกคนอยู่ในคณะรัฐมนตรีด้วยกัน
เมื่อถามว่า หวั่นหรือไม่ในช่วงรัฐบาลรักษาการแล้วจะเกิดปัญหาเกียร์ว่างของข้าราชการ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่หวั่น ซึ่งได้กำชับไปแล้ว และพยายามไปตรวจและติดตามงาน ซึ่งช่วงนี้ก็คงต้องลงไปดูให้มากเพราะเป็นกังวลนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะโครงการที่ติดค้าง เพราะจะไปอนุมัติใหม่คงไม่ได้ ตามกติกาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 มีนาคม เลขาฯครม.ก็จะทำการชี้แจงใน ครม.ให้รับทราบถึงขั้นตอนกฎกติกาต่างๆ ซึ่งมันดีกว่านี้ ก็ได้มีการไปประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หรือยัง ที่ได้ไปร่วมรับประทานอาหารกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งดูเหมือนเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็เขาไปทานข้าวร่วมกันไม่ใช่หรือ ส่วนที่มองกันว่าเป็นการจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าพวกคุณไปคิดกันเอาเอง สื่อไม่นั่งอยู่กับเขา แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาพูดอะไรกัน ซึ่งตนก็ไม่ทราบ
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตรในเรื่องนี้หรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ทำไมเขาไปทานข้าวหรือพบกันจะต้องคุยทั้งหมดอย่างงั้นหรือ จะให้ไปถามว่าพี่ไปทำอะไรมา พี่ไปกินข้าวเพราะอะไร พี่ไปกินข้าวกับเขาทำไม ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมไม่ใช่คนจุกจิกแบบนั้น อีกทั้งสื่อก็ชอบไปคิดกันเอาเอง ไม่เห็นมีรูปเขาไปจับมือกันเลย เขาจับกันอย่างนั้นหรือ”
ส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าไปพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อพูดคุยกันเรื่องการเมืองนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ให้ไปถามคนที่เขาพูด ผมไม่ได้ไปคุยด้วย อย่ามาถามอะไรในเรื่องที่ผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าพร้อมที่จะร่วมด้วยในอนาคตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ เพราะยังไม่ได้เลือกตั้ง ถามต่อว่าโดยส่วนตัวเชื่อว่าจะได้กลับเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมยังไม่คิดอะไรทั้งนั้น แต่จะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน” ถามว่าตัดสินใจหรือยังที่จะลงสมัคร ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมไม่ตอบ”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้เห็นผลสำรวจของนิด้าโพลแล้วซึ่งผลโพลก็คือผลโพล ก็แล้วแต่ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนต้องการอะไรที่มันควรจะถูกต้องและทำให้ประเทศไม่เสียหายถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของรัฐบาลต่อไป สำหรับตนก็พยายามทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
เมื่อถามว่าภาพจับมือกันของแต่ละพรรคในขณะนี้ ในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์เองถ้ามีโอกาสได้กลับเข้ามาพร้อมที่จะจับมือกับใครบ้าง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไม่รู้ยังไม่ทราบว่าใครจะได้ แล้วเค้าจะจับมือกับผมหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ไม่ใช่ผมอยากจะจับกับเขาข้างเดียวได้เสียเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ขอให้เอาประเทศชาติมาก่อน จะทำอะไรก็ตามก็ขอให้นึกถึงประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก
เมื่อถามว่าจุดขายของพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้คืออะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผมบอกแล้วว่าทุกอย่างให้ดูที่ผลงานและการทำงานที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงพรรค ก็ถือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งวันนี้ก็ลงเลือกตั้งกันทั้งหมดอยู่แล้ว มีพรรคใหม่ขึ้นมาคือพรรครวมไทยสร้างชาติและตนก็เป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่งก็ได้เอาแนวทางที่ขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้ไปขับเคลื่อนต่อเพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ถือเป็นวิสัยทัศน์ของเรา เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า เดินมากว่าครึ่งทางแล้วคิดว่าการตัดสินใจเข้าสู่สนามทางการเมืองไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “มันถามอย่างนั้นไม่ได้ และผมเองก็ตอบไม่ได้ ว่าตัดสินใจผิดหรือถูก ผมก็พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตามนั้น ประชาชนต้องการอย่างไรก็อย่างนั้น”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธว่า ไม่ขอตอบเรื่องการเมืองแล้ว
ทั้งนี้เมื่อถามว่าอยากได้ของขวัญชิ้นไหนเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดในวันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ขอให้ประเทศชาติและประชาชนมีความสุขไม่แตกแยก ไม่แบ่งแยกกัน รักสามัคคีรักษา 3 สถาบันของเราไว้ให้ได้ก็แล้วกัน ขอฝากไว้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรพูดในทำนองว่า ถ้าใครได้คะแนนกว่าก็ให้คนนั้นเป็นนายกฯไป พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็ไม่ได้ยินนี่ และท่านก็ไม่ได้พูดกับผม ถ้าสื่อได้ยินก็ไปถามท่านเองก็แล้วกัน ผมไม่ได้ไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์จะมาถามผม ผมไม่รู้และผมไม่สนใจที่จะอ่านด้วย”
