‘อภิสิทธิ์’ รับตรงๆ ขอเว้นวรรค เพราะห่วงเอกภาพในปชป. หลังแนวคิดไม่ตรงกับพรรค

“อภิสิทธิ์” แจงเหตุผลเว้นวรรคการเมือง แนวคิดไม่สอดคล้องกับพรรคหลายเรื่อง ชี้หากลงเลือกตั้งห่วงเอกภาพ ปชป. ยอมปรับบทบาท แต่ไม่คิดไขก๊อก ห่วงหลังเลือกตั้งเกิดสุญญากาศ 

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คมชัดลึก” ถึงเหตุผลเว้นวรรคการเมืองว่า เคยเป็นอดีต ส.ส. อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. และเมื่อผลการเลือกตั้งปี 2562 ออกมาได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค ต่อมาได้ลาออกจาก ส.ส. เนื่องจากตอนนั้นประกาศว่าจะไม่ไปร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ต่อมามีการไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่ได้หาเสียงว่าไม่เข้าร่วม เลยรักษาคำพูด ขอรับผิดชอบ แต่วันนี้ตนยังเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ไม่ได้ลาออก

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รวมทั้งนายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันว่า อะไรน่าจะดีที่สุด ได้พูดไปว่า ทุกคนทราบดีถึงแนวคิดหลายเรื่อง ช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้ตรงสอดคล้องกับการดำเนินการของพรรคมากนัก หากลงสมัครรับเลือกตั้งจะเกิดความสับสน ไม่เป็นเอกภาพ ซึ่งไม่น่าเป็นผลดีกับพรรค เพราะครั้งนี้หลายพรรคการเมืองถือว่าเป็นศึกหนักทางการเมือง ถ้าพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ยังสับสน ไม่มีเอกภาพ คงไม่น่าเป็นผลดีกับพรรค ดังนั้นเรื่องที่เหมาะสมลงตัวที่สุด คือ ตนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนจะไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหรือไม่ คงเป็นไปตามความต้องการผู้สมัครแต่ละคน เมื่อไปช่วยแล้วไม่ให้กระทบกระเทือนการบริหารงานหลักของพรรค โดยการเลือกตั้ง 2566 นายชวนและนายบัญญัติจะยังลงสมัครรับเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า เป็นการที่ตัดสินใจร่วมกัน เพราะตนพูดตั้งแต่ต้นว่า ไม่มีความประสงค์ขัดแย้งกับพรรค หากถามว่าอยากเป็น ส.ส.หรือไม่ ตั้งแต่ทำงานการเมืองมาก็เป็น ส.ส. หากลงบัญชีรายชื่อ ก็คงอยู่ในอันดับได้เป็น ส.ส. แต่ก็คิดถึงองค์กร ภาพรวมของพรรค สิ่งที่ทำให้ได้ดีที่สุดของพรรคคือ สนับสนุนเท่าที่ทำได้ หากนำตนไปวางเป็นผู้สมัครน่าจะเป็นปัญหาเชิงเอกภาพ และคงไม่เป็นธรรมกับผู้เลือกตั้งเท่าไหร่ ประชาธิปัตย์คืออะไร เลือกมาอีกอย่าง ทำอีกอย่าง ถ้าตนลงเลือกตั้ง คงมีคำถามตั้งแต่วันนี้ถึงหลังเลือกตั้ง

Advertisement

เมื่อถามว่า หากลงสมัครกังวลคนจะสับสน ประชาธิปัตย์อย่างไร แสดงว่าได้ทำนาย ประชาธิปัตย์ อาจจะไปจับขั้วเดิม แล้วขัดแย้งอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่ได้ไปทำนายอะไร แต่ปัจจุบันถึงจะมีเลือกตั้ง พรรคร่วมรัฐบาลก็ยังปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่ามีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา และเท่าที่ติดตามการทำหน้าที่ของหัวหน้าพรรค ปชป. ที่บอกขอดูตัวเลขก่อน จะได้มาเท่าไหร่ เหมือนยังไม่ตอบ เพื่อให้ผู้บริหารพรรคทำงานได้ง่ายที่สุด ก็ไม่อยากเป็นอุปสรรคเงื่อนไข

เมื่อถามต่อว่า หลังเลือกตั้งจะกลับเข้ามาอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทำงานการเมือง ไม่ได้เอาตนเป็นตัวตั้ง เป็นเพียงนักการเมืองคนหนึ่งอยู่ในระบบ ยังอยู่กับประชาธิปัตย์ ใครที่ยังไม่สนิทใจอะไร ไม่ได้หมายความว่าต้องออกจากพรรค ย้ายพรรค ตั้งพรรคใหม่ ก็คิดว่าทำแบบสากล ใครอาจยังไม่สนิทใจบางเรื่องบางราว ก็ปรับบทบาทตัวเองในพรรคลงมา เหมือนกับสมาชิกพรรคทั่วไป เป็นแนวทางการเมืองที่ยึดถือตลอด

ต่อข้อถามถึงข่าวการล่ารายชื่อ กรรมการบริหารพรรคจะลาออกเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลง โดยมีชื่อนายอภิสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สมาชิกพรรคมีความหลากหลาย ข่าวการล่ารายชื่อ ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งมีสมาชิกโทรศัพท์มาหา ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะกลับหรือไม่ ก็ตอบไปว่าไม่กลับ เพราะขณะนี้ พรรคตกลงปลงใจไปร่วมรัฐบาล การจะเปลี่ยนแปลง จะเอาตนกลับไปไม่ใช่แค่นั้นอย่างเดียว ยังส่งผลกระทบต่อการร่วมรัฐบาล เรื่องประเทศ อะไรต่างๆ ไม่ใช่วิธีการที่จะไปทำอะไรแบบนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่กลับ อันนี้คือเรื่องจริง พูดได้ และยืนยันไม่ได้อยู่เบื้องหลังการล่ารายชื่อ เพราะถ้าทำก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้

Advertisement

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image