เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรรคไทยภักดี ขึ้นเวทีเสวนา หัวข้อ ‘จับสัญญาณการเมืองก่อนการเลือกตั้ง’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนท้าย นายแพทย์วรงค์ เล่าถึงเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำกิจกรรมมากมาย รวมถึงได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสโมสรนักศึกษา
นายแพทย์วรงค์กล่าวว่า ก่อนจบ ตนอยากพูดถึงความรู้สึกนิดหนึ่ง พอเห็นน้องๆ แล้วนึกถึงตอนยังเป็นนักเรียนแพทย์ เป็นนักกิจกรรมนะ เคยเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้รับเลือกตั้งเป็นนายก เป็นผู้ก่อตั้งพรรคนักศึกษา ชื่อ ‘พรรค 12 ประสาน’ ซึ่งยังเป็นพรรคจนถึงวันนี้ อายุประมาณ 40 กว่าปีแล้ว
“ผมต้องการสื่อว่า ผมเข้าใจความรู้สึกนึกคิดในวัยของน้องๆ ทุกคน ว่าบริสุทธิ์ รักความถูกต้องชอบธรรม ความถูกต้อง เกลียดการถูกเอารัดเอาเปรียบ นี่คือเสน่ห์ของน้องๆ ทุกคน
ตอนที่ผมเป็นนายกสโมสรนักศึกษา มช. ยุคนั้นยังเป็นผลพวงของพี่ๆ ที่เข้าป่า มีการไปเยี่ยมตามตะเข็บรอยต่อ นั่งรถจากเชียงใหม่ไปพะเยา ข้ามเขา นานมาก เพื่อไปรับฟังแนวคิด ทำให้ผมถูกหล่อหลอม ถึงวันหนึ่งผมเป็นหมอเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จึงไปสมัครไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล 4 ปี ห่างจากตัวจังหวัดหนองคาย 120 กิโลเมตร ถนนบางช่วงเป็นทางลูกรังเริ่มรู้จักชีวิตจริงมากขึ้น รู้เลยว่าความจริง ที่ถูกหล่อหลอม โฆษณาชวนเชื่อ ไม่เหมือนกัน จึงอยากสื่อสารว่า ชีวิตจริงกับสิ่งที่เรียนในห้อง แตกต่างกันลิบลับ
เมื่อน้องออกจากมหาวิทยาลัย ชีวิตที่หาเงินได้ด้วยตนเอง อยากให้ตระหนักว่า ปัญหาในการดำรงชีวิต หรือแม้แต่ปัญหาทางการเมือง ไม่ใช่การแก้คำตอบแบบข้อสอบชอยส์ที่มีตัวเลือก ก-ข แต่ต้องแก้ด้วยอัตนัย เพราะมันมีความหลากหลายของความคิดที่สร้างสรรค์
ฝ่ายการเมืองพยายามโฆษณาชวนเชื่อมา บางครั้งมันไม่ใช่ สิ่งที่ต้องเรียนรู้คือ ต้องคิดมุมนู้น มุมนี้ มิฉะนั้น เวลาทำงานจริง จะไม่เหมือนกับที่คาดหวัง หัวใจสำคัญคือ ยืนในจุดที่คิด เพื่อนๆ น.ศ.ที่ทำกิจกรรมด้วยกัน คิดว่าจะทำงานเพื่อชาติเยอะ แต่ถึงวันหนึ่งเมื่อเจอทุนสามานย์เข้ามาครอบงำ เป๋” นายแพทย์วรงค์กล่าว
นายแพทย์วรงค์กล่าวต่อไปว่า อนาคตเมื่อน้องๆ ต้องมาดูแลแผ่นดินนี้ ประเทศนี้ พวกตนมีหน้าที่สร้างกติกาที่เป็นธรรมไว้ให้
“ผมจะสู้ เพื่อให้ลูกหลานเกษตรกรชาวนาเข้ามาดูแลประเทศ ถ้ากติกายังเป็นแบบนี้อยู่ มีแต่ลูกนายทุน บางคนโผล่ขึ้นมาแล้วจะเป็นนายกฯเลย มันเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องไต่เต้า ถ้าเป็นอย่างน้องๆ เอาแค่สมัคร ส.ส. ยังแทบไม่มีโอกาสเลย
ผมไม่เชื่อว่าลูกหลานนายทุน จะมาปกป้องประโยชน์ชาวไร่ชาวนา
สิ่งที่ท้าทายมาก คือ ภายใต้กติกาทุกอย่าง พวกเราเสียเปรียบ สู้ได้อย่างเดียวคืออุดมการณ์ การต่อสู้ด้วยหัวใจ อย่างที่ลุงโฮ สู้เอาชนะฝรั่งเศส พรรคพวกเราแม้เป็นพรรคน้องใหม่ แต่เชื่อว่าจุดยืน อุดมการณ์ไม่แพ้ ขอชวนน้องๆ มาร่วมมือกับไทยภักดี ปฏิวัติประชาชนด้วยคูหาเลือกตั้ง” นายแพทย์วรงค์กล่าว
