ชัชชาติ กังวลต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวค้างเติ่ง ลุ้นรัฐบาลใหม่แก้ปัญหา-ส่งต่อรถไฟฟ้าสายสีเทา สีเงิน ให้รัฐบาลใหม่สร้างแทน-แง้มยกสายสีเขียวให้ รฟม.
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม เวลาประมาณ 16.00 น. ที่สำนักการจราจรและขนส่ง เขตดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจร สำนักการจราจรและขนส่ง”
นายชัชชาติเปิดเผยว่า ปัจจุบันสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้มีการศึกษาเพื่อดำเนินการโครงการรถไฟฟ้า สายสีเทา วัชระพล-ทางหล่อ สายสีเงิน บางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายชัชชาติกล่าวว่า จากการฟังความเห็นของเอกชน ต้องการให้เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) โดย กทม.ต้องรับภาระในส่วนของค่างานโยธาซึ่งเป็นวงเงินอย่างน้อย 60,000 ล้านบาท ซึ่งถ้ารัฐบาลใหม่สนใจรับไปทำแทนจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะ กทม.ไม่มีผู้เชี่ยวชาญระบบราง และใช้บประมาณสูงเกินไป ซึ่งเงินดังกล่าวสามารถไปทำภารกิจหลักของ กทม.ได้ เช่น การศึกษา การสาธารณสุข ความสะอาด ความปลอดภัย
“ต้องหารือกับทางรัฐบาลใหม่ ถ้าเอาไปทำเลยจะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนในแง่เครือข่ายโดย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ครอบคลุม การใช้ตั๋วระบบเดียว ค่าแรกเข้า” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า ส่วนสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน สามารถขนส่งผู้โดยสารจากถนนราชพฤกษ์มาได้ ผลการศึกษาพบว่าจะมีผู้ใช้งานเฉลี่ย 35,000 คนต่อวัน ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าส่วนสัมปทาน 700,000 คนต่อวัน อย่างไรก็ตาม ในอนาคตรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะมีการพูดคุยยกให้รัฐบาลเป็นผู้ดูแลแทนหรือไม่
“เรื่องที่กังวล คือ การต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวถึงปี 2602 ที่เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ว่ามีการยุบสภาแล้วเรื่องที่ค้าง เนื่องจากตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว กำหนดให้ ครม.เป็นผู้อนุมัติต่อสัญญาสัมปทาน แต่ไม่ได้ระบุให้ ครม.ยกเลิกได้ แต่ปัจจุบัน ครม.อยู่ในฐานะรักษาการ จะดำเนินการต่ออย่างไร และใครจะมีอำนาจยกเลิก คำสั่ง คสช. ซึ่งมีฐานะเทียบเท่าพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หากมีการเปลี่ยนรัฐบาล เรื่องดังกล่าวจะถูกนำไปพิจารณาต่อด้วยหรือไม่” นายชัชชาติกล่าว
