‘ณัฐวุฒิ’ ชี้ ภาพ ‘ประวิตร-อนุทิน’ คุยชื่นมื่น ส่งสัญญาณตั้งรัฐบาล ‘ขั้วเดิม’ ระบุ ไม่นับ ‘ประยุทธ์’ ในสมการ ถือว่าปรามาสกันเกินไป
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายณัฐวุฒิ บัวประทุม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เข้าอวยพรวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในช่วงเช้าของวันที่ 22 มีนาคม แต่ช่วงเที่ยงกลับพาแกนนำพรรค ภท. เดินทางไปที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า กรณีของพรรค ภท.ที่ร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร มาตลอด 4 ปี คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะไปรับประทานข้าว และพบปะกัน แต่สิ่งที่ต้องคิดมากกว่าคือตกลงแล้วภาพที่ต้องการสื่อสารออกมาเกิดขึ้นจากความต้องการของใคร
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า หากภาพดังกล่าวมาจากการต้องการสื่อสารของ ภท. ก็สะท้อนให้เห็นว่า ภท.อัพตัวเองขึ้นมามีศักยภาพที่อาจจะเป็นแกนนำรัฐบาล ส่วนคนที่นั่งรับประทานข้าวด้วย อาจจะเป็นเพียงคนที่ได้มาร่วมรัฐบาล หรือหากภาพนี้ถูกสื่อสารมาจากทีมงานของ พปชร.ก็สะท้อนให้เห็นว่า พปชร.มีความพร้อมและเตรียมตัวที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 คือ พล.อ.ประวิตรเป็นการแสดงความตั้งใจว่าพร้อมที่จะเป็นรัฐบาลและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกฯ ดังนั้นการส่งสัญญาณผ่านภาพถ่ายจึงมีความชัดเจนในระดับหนึ่งว่า อาจจะมีการจับขั้วทางการเมืองเดิมเป็นหลักในการตั้งรัฐบาล
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับนักการเมืองอาจจะเร็วไปที่จะพูด จนกว่าตัวเลขสุดท้ายหรือคณิตศาสตร์ทางการเมืองจะออกมาว่าผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร จะแตกต่างก็แต่เพียงพรรค ก.ก.ที่ประกาศชัดเจนว่าเราไม่ร่วมกับพรรคที่เป็นนั่งร้านของระบบ คสช. หรือพรรคทหารจำแลง
ส่วนการประมาณตัวเลข 203 คน ต้องดูว่าเป็นการประมาณการจากฝั่งใด หากเป็นการส่งสัญญาณชี้นำการเลือกตั้งก็อาจจะเป็นอีกแบบหนึ่ง การไม่มี พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสมการนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) คงต้องขยับว่าลืมกันได้อย่างไร การมาปรามาสจะไม่ได้รับการเลือกตั้งที่มากพอนั้น เป็นการปรามาสทางการเมืองจนเกินไป ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พรรค ก.ก. พรรคประชาชาติ และพรรคเสรีรวมไทย ก็ยังมั่นใจว่าคะแนนรวมของเราจะไม่น้อยไปกว่าเดิม จึงพร้อมที่จะมาเป็นฝ่ายรัฐบาล แต่นาทีนี้คือสนามของการแข่งขัน จึงเร็วไปที่จะพูดว่าใครจะได้เท่าไหร่และใครจะจับมือกับใคร
“ในท้ายที่สุดสิ่งที่เราต้องคิดร่วมกันคือการทำให้ ส.ว. เคารพเจตจำนงของพรรคการเมืองที่รวมกันแล้วคะแนนเกินครึ่งได้อย่างไร เพราะตัวเลขที่ออกมาจากฝั่งรัฐบาลยังไม่ถึงครึ่ง” นายณัฐวุฒิกล่าว
เมื่อถามว่า หากพรรค รทสช.ไม่ได้ ส.ส.มากพอจะถูกพรรคร่วมรัฐบาลทิ้งหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราอย่าประมาทพรรค รทสช. เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคที่มีการจัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัดครบแล้วทั้ง 77 จังหวัดก่อนหน้าพรรคการเมืองเก่าด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีการรวมตัวกันของ ส.ส.จากหลากหลายส่วน ตนคิดว่าพรรค รทสช. มีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขัน แต่เราแค่ยังไม่เห็นนโยบายอย่างชัดเจน หรือเห็นการดีเบตของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ อยากให้รอดูรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของแต่ละพรรคการเมือง และรอดูการดีเบตและการนำเสนอนโยบายของแต่ละคน เพื่อให้ประชาชนใช้ในการตัดสินใจในวันเลือกตั้ง
