นายกฯจี้ กต.คุยเพื่อนบ้านแก้ฝุ่น ยันเซ็นขอความร่วมมือแล้ว ‘ท็อป’ ห่วงเข้มมากเจอต้านกลับ

‘บิ๊กตู่’ ชิล บอกอากาศดี เผย กต.ประสานความร่วมมือเพื่อนบ้าน แก้ปัญหา PM2.5 วอนเกษตรกรเผาวัชพืช คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ‘วราวุธ’ กำชับหน่วยงานให้ทำตามแผน หวั่นเข้มไปจนกระทบ ปชช.

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินมาทักทายสื่อพร้อมระบุว่า “อากาศดีเนอะ ลมเย็นดี” ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีการประชุม ครม.ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และการเผาป่าที่ได้มีการกำชับไปแล้ว เพราะทุกคนมีหน้ารับผิดชอบกันไปแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านไปสักพักแล้ว วันนี้ก็จะย้ำไปอีกครั้งหนึ่ง เพราะจุดความร้อนเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ซึ่งจะต้องระมัดระวังเรื่องของผลกระทบ

เมื่อถามว่าจะเป็นวาระอาเซียนด้วยกันหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็ต้องทำอย่างนั้น เพราะเรามีข้อมูลอยู่แล้วว่าอยู่ในประเทศเท่าไหร่ และรอบบ้านเท่าไหร่ ก็ต้องหารือร่วมกัน เพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมายาวนาน และเราก็พยายามแก้

Advertisement

นายกฯกล่าวว่า วันนี้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แก้ปัญหาทั้งในระดับพื้นที่และส่วนกลาง ซึ่งในระดับประเทศตนได้ลงนามประสานขอความร่วมมือในระดับรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เราถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดี และในพื้นที่ภาคเหนือเราก็พยายามให้จุดความร้อนมันลดลง แต่ก็ต้องขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยเฉพาะการเผาวัชพืชที่ยังเยอะอยู่

“เราต้องขอความร่วมมือให้มากที่สุด เกษตรกรคนไทยต้องช่วยเหลือกันให้มากกว่าเดิม ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบมากขึ้นอีก ฉะนั้น จะทำอะไรต้องคำนึงถึงผลกระทบกับคนส่วนอื่นด้วย” นายกฯกล่าว

ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม  ครม.ถึงการแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ว่าการเผาไหม้ข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก นายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงการต่างประเทศติดตามและจี้ถามไปยังประเทศเพื่อนบ้านทุกวัน เพื่อตอกย้ำความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา

Advertisement

นายวราวุธกล่าวว่า ในส่วนของประเทศไทยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานทำตามแผนงานที่เตรียมไว้ แต่หากเร่งรัดเกินไปอาจกระทบต่อประชาชนอีกส่วนหนึ่งได้ จึงต้องทำให้เกิดความสมดุล เพราะถ้าไปเข้มงวดมากจนเกินไปอาจจะทำให้เกิดการต่อต้านกลับ ขณะที่บางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอาจไม่พอใจ ให้รัฐเร่งจัดการ จึงต้องบริหารให้ดี และต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการที่มี

เมื่อถามว่าจะมีมาตรการเร่งด่วนออกมาดูแลหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ที่จริงมาตรการเรามีเรียบร้อยอยู่แล้ว ขอให้ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดไปดำเนินการอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ในการดูแลและแก้ปัญหา สกรีนดูแต่ละพื้นที่ให้มีการสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันเบื้องต้น เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image