หาเสียงบนเสื้อมาแรง พรรคการเมือง-กองเชียร์ ควักงบจ้างผลิตแจก พุ่ง 4 เท่าตัว
นายสมภพ สื่อนพคุณ รองเลขาธิการส่วนภูมิภาค สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเสื้อเพื่อใช้ในการรณรงค์ของพรรคการเมืองต่างๆ มีการขยายตัวต่อเนื่อง หากเทียบกับการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา ประเมินว่า ยอดสั่งซื้อจะสูงขึ้นกว่า 4 เท่าตัว แต่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้ชัดเจน เนื่องจากผู้ผลิตรายเล็ก หรือเอสเอ็มอี จะมีคำสั่งซื้อผ่านตัวแทนกลาง และมีการกดราคา หรือหักส่วนต่างค่าผลิตค่อนข้างสูงมากในขณะนี้
เช่น ราคาว่าจ้าง 150-180 บาท/ชิ้น ก็จะถูกหัก 100-120 บาท ทำให้ผู้ผลิตเอสเอ็มอีเหลือ 50-60 บาท หรือถูกกดราคาเหลือ 50 บาทต่อชิ้น ทำให้เงินสะพัดจากการผลิตเสื้อ หรือพรินต์ข้อความบนเสื้อช่วงรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมือง หลายล้านตัวในช่วงเลือกตั้งปีนี้ ไม่ได้ส่งผลเอื้อต่อผู้ผลิตรายย่อย หรือเงินเข้าอุตสาหกรรมผลิตเสื้อผ้าเท่าที่ควร ทั้งนี้ พรรคการเมืองนิยมเสื้อผ้าแบบเสื้อยืดคอกลม เสื้อโปโล เสื้อแจ๊กเก็ต โดยเน้นการพิมพ์ชื่อบุคคล ชื่อพรรค นโยบายแบบสั้น เพื่อการจดจำ
นายสมภพกล่าวต่อว่า เลือกตั้งครั้งนี้ เสื้อเพื่อใช้รณรงค์หาเสียง เป็นที่นิยมมาก และเป็นการสั่งผลิตทั้งจากพรรคการเมือง และจากผู้ให้การสนับสนุนพรรคการเมือง ที่มีสูงขึ้น แต่ละครั้งพิมพ์หลายพันตัวถึงหลายหมื่นตัว แต่น่าเสียดายไม่มีการสั่งซื้อกับผู้ผลิตรายย่อยโดยตรง เรื่องนี้อยากฝากถึงพรรคการเมืองพิจารณาด้วย และกำลังเสนอให้สมาพันธ์ทำหนังสือถึงพรรคการเมืองต่างๆ โดยตรง ขอให้พิจารณาสั่งผลิตผ่านสมาพันธ์ก็ดี เพื่อให้สมาพันธ์นำคำสั่งซื้อไปกระจายให้กับสมาชิกผู้ผลิตเสื้อ หรือรับสกรีนข้อความ ที่มีทั่วประเทศ จะเป็นการกระจายรายได้ให้กลุ่มผู้ผลิตรายย่อย และลดปัญหาถูกกดราคาจากตัวแทนนายหน้า ซึ่งมักกินเปอร์เซ็นต์สูง 70% ของยอดซื้อต่อชิ้นแล้ว
“หากตัดเรื่องนายหน้าพ่อค้าคนกลางได้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตทั่วไปมาก ถ้าทุกพรรคการเมืองทำได้จะเป็นเรื่องดีมาก ทั้งเป็นตัวอย่างกับการผลิตอื่นๆ เช่น เสื้อผ้ากีฬา เติบโตหลังโควิดคลี่คลาย ก็ถูกการแข่งขันราคาและกดราคาจนตลาดเสียไปหมด กดให้รายย่อยที่เน้นคุณภาพต้องเลิกกิจการ” นายสมภพกล่าว