นักการตลาด เจาะเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์พรรคใหญ่ แนะกิมมิค ทำอย่างไรให้คนจดจำ

นักการตลาด เจาะเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์พรรคใหญ่ แนะกิมมิค ทำอย่างไรให้คนจดจำ

เมื่อวันที่ 4 เมษายน ภายหลังจากการจับหมายเลข บัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งครั้งที่ 66 นี้ โดยพรรคใหญ่ๆ ต่างได้เลข 2 หลัก มีเพียง ภูมิใจไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ขึ้นจับได้เบอร์ 7 เลขตัวเดียวเพียงพรรคเดียว

ขณะที่พรรคอื่นๆ ได้เบอร์อาทิ เพื่อไทย 29, ก้าวไกล 31, พลังประชารัฐ 37, รวมไทยสร้างชาติ 22, เสรีรวมไทย 25, ไทยสร้างไทย 32, ประชาธิปัตย์ 26, ชาติไทยพัฒนา 18, ประชาชาติ 11, ชาติพัฒนากล้า 14, ไทยศรีวิไลย์ 42, ไทยภักดี 21, เพื่อชาติ 24 และ พรรคเปลี่ยน 20

ทั้งนี้ ‘แมว-ประกิต กอบกิจวัฒนา’ ผู้วางแผนกลยุทธ์สื่อสารในการหาเสียงให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้คิดมอตโต “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ให้กับแคมเปญการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ มติชนทีวี ถึงผลการจับลำดับของเบอร์ พร้อมคำแนะนำในการหาเสียงของแต่ละพรรคจากนี้

Advertisement

ประกิตกล่าวว่า ภาพรวมการจับเบอร์นี้ พรรคใหญ่ได้เลข 2 หลัก ยกเว้นภูมิใจไทยได้เลขตัวเดียว ในแง่การจดจำ เบอร์ 29 เป็นเลขมงคล แม้เลข 2 หลัก เป็นการสื่อสารที่ยาก ต้องหาวิธีให้คนจดจำ ในแง่ของการเป็นพรรค เพื่อไทยมีความแข็งแรง ไม่น่าเป็นห่วงเรื่องตัวเลขเท่าไหร่ หากให้คนจำได้เพื่อไทยก็อาจจะต้อง 2 บวก 9 ต้องหากิมมิคในการจดจำ การที่ได้เบอร์ 29 ของเพื่อไทย อาจมีปัญหาในเรื่องการเน้นย้ำ ในการเลือกตั้งโค้งสุดท้าย จะมีปัญหาของบัตร กกต. ที่ไม่ลงโลโก้ ทุกพรรคจะมีปัญหาคล้ายๆ กัน ในแง่เลข 2 หลัก ในโค้งสุดท้าย

“สำหรับพรรคก้าวไกล หมายเลข 31 นั้น ประกิตกล่าวว่า คงเป็นโจทย์ยาก แต่ทางก้าวไกล ก็ต้องไปคิดกิมมิค ให้คนจดจำ 3 กับ 1 ปัญหาคล้ายๆ กับเพื่อไทย หากให้คิดเร็วๆ 31 ก็เอา นโยบาย 3 ข้อหลัก + 1 พลัส ส่วนเบอร์ของลุง 22 รวมไทยสร้างชาติ ในแง่ของการจดจำ อาจจะทำได้ง่ายกว่า ในการนับนิ้วมือ อย่างก้าวไกลกับรวมไทยสร้างชาติ อาจจะนับนิ้วง่ายกว่า”

Advertisement

“ขณะที่ เบอร์ลุงป้อม 37 พลังประชารัฐนั้น ผมว่าก็ต้องบวกกันแล้ว อาจจะได้เลขมงคลอีกเลขหนึ่ง 3+7 อาจจะต้องหาวิธี แต่คิดว่าผลสุดท้ายแล้ว ในแง่การทำสื่อสาร สัญลักษณ์ให้คนจดจำ ก็สำคัญมากๆ ให้เกี่ยวพันกับนโยบายของตัวเอง ตอนนี้ เรามีปัญหา ไม่แน่ใจ กกต.จะเปลี่ยนบัตรหรือเปล่า ไม่มีโลโก้พรรค จะมีแค่ช่องของเลขเท่านั้น ก็เป็นโจทย์ใหญ่ของพรรค ที่จะให้คนจดจำให้คนจำพรรคมากที่สุด” ประกิตระบุ

ประกิตกล่าวต่อว่า พูดในมุมส่วนตัว ถ้าดูจากโพล ยึดเป็นตัวหลัก ตอนนี้ โพลหรือคะแนนของคนที่ไม่ตัดสินใจ น้อยมากๆ นั่นหมายถึง ตอนนี้คนตัดสินใจไปเยอะแล้ว ว่าจะเลือกพรรคไหน ไม่ว่าจะโพลก้าวไกล หรือ เพื่อไทย หรือรวมไทยสร้างชาติ นิ่งในระดับหนึ่ง นับจากนี้ต่อไป การตอกย้ำเบอร์ปาร์ตี้ลิสต์ สำคัญมาก อาจต้องรณรงค์ให้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะแคมเปญใน กทม. เราต้องเน้นย้ำพรรคด้วย สำคัญ จากนี้ ส.ส.ในพื้นที่เขต นอกจากหมายเลขตัวเองด้วย ต้องรณรงค์เบอร์พรรคไปด้วย ต้องคิดกลยุทธ์

“ผมคิดว่า คะแนนปาร์ตี้ลิสต์สำคัญมากๆ ที่จะได้เก้าอี้คะแนนเสียงเพิ่ม ในแง่แคนดิเดตนายกฯ ตัวเลขพรรคสำคัญมาก เบอร์ของผู้สมัครกระจัดกระจายมากๆ แน่ๆ ในแง่ของการสื่อสาร ยิ่งพรรคที่จะต้องบอกว่าเลือกทั้งคนทั้งพรรค อาจจะต้องสื่อสารชัดๆ ว่าให้ไปทิศทางไหน อย่างเมื่อกี้ เจอผู้สมัครบางท่าน ในก้าวไกลก็พูดเหมือนกันว่า จริงๆ อาจจะต้องตัดสินใจว่าเอาเบอร์พรรค หรือเอาเบอร์ผู้สมัครเป็นหลัก โจทย์นี้ โดยการจดจำที่พรรคเป็นหลัก อาจจะมีใจความสำคัญมากกว่าผู้สมัคร ในโค้งสุดท้ายนี้ การจำชื่อพรรค จะจดจำได้ง่ายกว่า ตัวเบอร์ ส.ส. เขตนำ เอาตัว ส.ส.เขตไปนำยิ่งสับสนไปอีก ผู้สมัคร หลังจากนี้ไป การเดินหาเสียงไป ต้องตอกย้ำ เบอร์ตัวเองและพรรค ควบคู่ไปมากๆ ไม่มีทางหนีเกมนี้ออกเลย”

ส่วนความได้เปรียบเสียเปรียบเรื่องเบอร์นั้น ประกิตมองว่าไม่มีใครเสียเปรียบหรือได้เปรียบ

“ดูจากเบอร์ ไม่มีใครได้เปรียบเสียบเปรียบ เพราะคนตัดสินใจไปแล้ว เพียงแต่ช่วงนี้อาจจะสับสนเรื่องเบอร์ ดูจากตัวเลข ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเลย แต่ละคนต้องไปทำการบ้านว่าทำไงให้คนจดจำเบอร์ของพรรค และในขณะเดียวกันเบอร์รายเขตด้วย ไม่มีแต้มต่อเยอะ ทุกคนได้รับผล ในบรรดาพรรคใหญ่ เท่าเทียมกัน ยกเว้นภูมิใจไทยได้เลขตัวเดียว” ประกิตทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image