เพื่อชาติ โต้ ‘วรัญชัย’ คือสมบัติล้ำค่า ไม่ใช่ตัวตลก! ยืนยันส่งลงแข่งเขต 1 กทม. – อวยยศ ‘นักสู้ที่น่ายกย่อง’ ควรให้โอกาส ด้านเจ้าตัวยืดอกรับ ‘หิวแสงประชาธิปไตย’
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 เมษายน ที่ Live Policy Center ศูนย์นโยบายมีชีวิต พรรคเพื่อชาติ ซอยสุขุมวิท 12 พรรคเพื่อชาติ แถลงการณ์ พร้อมชี้แจงประเด็นความเหมาะสมของผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งถูกกังขาว่า “ขาดคุณสมบัติ ไม่สมควรลงสมัคร” หลังจากที่หลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับการที่พรรคเพื่อชาติประกาศส่ง นายวรัญชัย โชคชนะ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) และ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
น.ส.ชุติมา กุมาร ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อชาติ ขอชี้แจงและขอน้อมรับในข้อกังวลความห่วงใยจากทุกคนที่ส่งมายังพรรคเพื่อชาติ และขอบพระคุณในความหวังดีของทุกท่าน ซึ่งในกรณีของนายวรัญชัยนั้น คณะกรรมการสรรหาของพรรคเพื่อชาติได้มีมติเห็นตรงกันยืนยันว่าจะส่ง นายวรัญชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ในนามพรรคเพื่อชาติ ด้วยเหตุผลที่ว่าคำครหาที่บอกว่า นายวรัญชัย หิวแสงนั้น พรรคเพื่อชาติมองว่า เป็นการหิวแสงที่น่ายกย่อง เพราะเป็นแสงแห่งประชาธิปไตย
“อย่างน้อยเขาก็เป็นคนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้ความอยุติธรรมกลืนกินความถูกต้องของสังคมลงไป รวมทั้งที่มีหลายคนอาจมองว่า นายวรัญชัย เป็นเหมือนตัวตลกทางการเมือง แต่สำหรับพรรคเพื่อชาติ นายวรัญชัย ถือเป็น “สมบัติมีค่าของฝ่ายประชาธิปไตย” ที่ควรยกย่องและให้โอกาส” น.ส.ชุติมากล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ดร.ชยุต มารยาทตร์ ผู้อำนวยการเขตเลือกตั้ง ส.ส.กรุงเทพมหานคร เผยว่า ส่วนตัวได้มีโอกาสพบกับ นายวรัญชัย มาโดยตลอด และก็ยอมรับว่า นายวรัญชัยเป็นคนหนึ่งที่ลงสมัครรับเลือกตั้งมากที่สุด แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับการเลือกเลย ครั้งนี้เมื่อมีโอกาสได้พบและพูดคุยกันอีกครั้งจึงได้สอบถามเหตุผลว่าทำไมจึงเลือกที่จะเดินเข้ามาสมัครในนามตัวแทนของพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเหตุผลแรกที่ นายวรัญชัยชี้แจงก็คือ ที่ผ่านมาไม่มีพรรคการเมืองใดเปิดโอกาสหรือต้อนรับให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค หรือไม่ให้โอกาสที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคการเมืองนั้นๆ แต่พอได้เห็นพรรคเพื่อชาติที่ประกาศจุดยืนว่าเป็นพรรคที่ยึดหลักประชาธิปไตยและยังเป็นพรรคที่เน้นย้ำเรื่องความเท่าเทียมและความเสมอภาค จึงตัดสินใจเดินทางมาที่พรรคเพื่อชาติ ซึ่งส่วนตัวได้เห็นความตั้งใจของ นายวรัญชัยที่มีมาอย่างเต็มเปี่ยม จึงได้เชิญคณะกรรมการสรรหารวมถึงกรรมการบริหารของพรรคมาร่วมพูดคุยกันและได้เห็นถึงแนวคิดของ นายวรัญชัย ที่ว่า
“ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนหิวแสง แต่ว่าเป็นการหิวแสงแห่งประชาธิปไตย ต้องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ไม่เคยมีใจที่จะไปอยู่ข้างฝ่ายเผด็จการ และตอนนี้ก็อายุ 70 กว่าแล้ว การลงรับสมัครเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตจึงอยากจะขอโอกาสสุดท้ายจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนเพื่อเข้ามาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของคนกรุงเทพฯ ที่มาในนามของพรรคเพื่อชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ให้โอกาส”
พล.ต.ต.ดร.ชยุต ชี้ว่า เพราะคำพูดที่จริงใจของ นายวรัญชัย จึงทำให้กรรมการบริหารพรรครวมถึงคณะกรรมการสรรหาของพรรคตัดสินใจและเห็นตรงกันว่าจะสนับสนุนให้ นายวรัญชัย ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคเพื่อชาติ
ด้าน ร.อ.ดร.จารุพล เรืองสุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ระบุว่า วันนี้พรรคเพื่อชาติได้แสดงให้เห็นว่าจุดยืนของพรรคเพื่อชาติคืออะไร สิ่งที่เราพูดกันมาเสมอคือเราต้องการเอาชนะความเหลื่อมล้ำให้ได้ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญของพรรคเพื่อชาติ เพราะเราต้องการสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม ต่อสู้กับการผูกขาด การเอารัดเอาเปรียบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่ากัน ซึ่งกรณีของ นายวรัญชัย ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่วันนี้เราได้เห็นหลายคนให้ความเป็นห่วงเป็นใย แต่บางคนก็มาในลักษณะของการบูลลี่ การด้อยค่า ดูถูดูแคลนกัน โดยเน้นไปที่รูปลักษณ์ภายนอก
“แต่ก็อย่างที่โฆษกของพรรคเพื่อชาติได้ชี้แจงไปในเบื้องต้น พรรคเพื่อชาติเห็นว่า นายวรัญชัยเป็นเหมือนสมบัติที่มีค่าของฝ่ายประชาธิปไตยที่พรรคเพื่อชาติมองว่าคนแบบ นายวรัญชัย ไม่ได้มีเยอะและไม่ได้มีเกิดขึ้นบ่อยๆ ในสังคม เพราะที่ผ่านมานักการเมืองส่วนใหญ่จะเลือกลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าตัวเองจะชนะการเลือกตั้งเท่านั้น แต่สำหรับนายวรัญชัยแม้จะรู้ว่าลงสมัครรับเลือกตั้งไปจะไม่ได้รับชัยชนะแต่ก็เลือกที่จะสู้
พรรคเพื่อชาติจึงเห็นว่านายวรัญชัย เป็นนักสู้ที่น่ายกย่องคนหนึ่ง และพรรคเพื่อชาติก็อยากจะเริ่มทุกอย่างที่พรรคของเราเพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างให้กับทุกๆ คนในสังคมให้ได้เห็น ว่านี่คือการให้โอกาส เพราะพรรคเพื่อชาติเน้นย้ำเสมอว่าโอกาสคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของทุกคน” ร.อ.ดร.จารุพลกล่าว
อ่านข่าว : เพื่อชาติ เคาะ ‘นพ.เรวัต-จารุพล’ แคนดิเดตนายกฯ สู้เลือกตั้ง แก้เหลื่อมล้ำในชาตินี้
สำหรับแถลงการณ์พรรคเพื่อชาติ มีเนื้อหาดังนี้
จากกรณีที่มีหลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับการที่พรรคเพื่อชาติประกาศส่งนายวรัญชัย โชคชนะ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) และเขตบางรัก กรุงเทพมหานครในนามพรรคเพื่อชาติในครั้งนี้ พรรคเพื่อชาติขอบพระคุณในความหวังดีของทุกท่าน และขอยืนยันในการส่งนายวรัญชัย โชคชนะลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 1 กรุงเทพมหานคร ด้วยเหตุผลดังนี้
1. คุณวรัญชัย โชคชนะ เป็นผู้หนึ่งที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี อีกทั้งยังลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหลายครั้ง แม้จะไม่เคยได้รับชัยชนะเลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่ก็ไม่เคยย่อท้อและละความพยายาม ดีกว่าอีกหลาย ๆ คนในวงการการเมืองที่จะลงสมัครเมื่อรู้ว่าจะชนะเท่านั้น และไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งกับฝ่ายตรงข้ามประชาธิปไตยเลยแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิต นี่จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนที่สุดต่อความตั้งใจ ความเป็นนักสู้ และจุดยืนที่เคียงข้างประชาธิปไตยและการเลือกตั้งอันเป็นการเคารพเสียงของประชาชน
2. นอกจากการลงสมัครรับเลือกตั้งหลายครั้งแล้ว คุณวรัญชัยเป็นผู้หนึ่งที่ต่อสู้เพื่อความอยุติธรรมในสังคมและการได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ จึงเป็นภาพที่คุ้นตาในการเห็นคุณวรัญชัยไปยังกิจกรรมทางการเมือง และเวทีต่างๆอยู่เสมอ จนมีผู้ให้ร้ายคุณวรัญชัยว่าเป็นคน “หิวแสง” ซึ่งพรรคเพื่อชาติก็มองเห็นเช่นนั้น แต่ทว่าพรรคเพื่อชาติมองว่าเป็นการ “หิวแสงประชาธิปไตย” ที่น่ายกย่อง เพราะหากมองกันอย่างถ่องแท้แล้ว การไปทำกิจกรรมทางการเมืองของคุณวรัญชัยล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมทางการเมืองและเวทีเพื่อประชาธิปไตยทั้งสิ้น เช่นกัน เราไม่เคยเห็นคุณวรัญชัยวิ่งเข้าหาแสงเผด็จการเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งๆที่ทำได้ไม่ยาก และมีผลประโยชน์มากมาย ดังนั้น แม้ว่าผู้คนจำนวนไม่น้อยรวมถึงพรรคการเมืองหลายพรรคจะดูแคลนและด้อยค่าคุณวรัญญชัย โชคชนะ ตลอดจนมองคุณวรัญชัยเป็นตัวตลกทางการเมือง แต่พรรคเพื่อชาติมิได้คิดเช่นนั้น แต่กลับมองคุณวรัญชัยเป็น “สมบัติอันมีค่าของฝ่ายประชาธิปไตย” ที่ควรยกย่องและให้โอกาส
3. การตัดสินผู้คนจากข่าวลือและรูปลักษณ์ภายนอก ถือเป็นบ่อเกิดหนึ่งของความไม่เท่าเทียม การปิดกั้นโอกาส และความไม่เป็นธรรมของสังคม และเชื่อว่าคนไทยหลายคนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับคุณวรัญชัย โชคชนะ พรรคเพื่อชาติในฐานะพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในอุดมการณ์เพื่อยุติอำนาจเผด็จการและการแก้ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันในสังคม จึงได้มองเห็นคุณค่าของคุณวรัญชัยในฐานะนักรบประชาธิปไตย และเมื่อตรวจสอบคุณสมบัติทุกอย่างแล้วพบว่าคุณวรัญชัย โชคชนะ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีความรู้ความสามารถ และมีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎหมายและพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง จึงเป็นเหตุให้คณะกรรมการสรรหาของพรรคเพื่อชาติปราศจากข้อกังขาและมีมติท้วมท้นให้คุณวรัญชัย โชคชนะ ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 กรุงเทพมหานคร
4. พวกเราพรรคเพื่อชาติทุกคน ให้ความสำคัญกับคุณค่าของความเป็นมนุษย์และจุดยืนประชาธิปไตยของคุณวรัญชัย โชคชนะเหนือสิ่งอื่นใด
หลายครั้งที่เราได้เห็นคุณวรัญชัย โชคชนะ ต้องเดินอย่างเหงาหงอยเดียวดายไปตามที่ต่างๆ หลายครั้งโดนด่าทอ หลายครั้งโดนขับไล่ โดนดูถูก โดนหัวเราะเยาะเย้ยถากถางเพราะรูปลักษณ์และฐานะ ทั้ง ๆ ที่ทำไปเพื่อความฝันที่จะเห็นประชาธิปไตยเบ่งบาน ทั้ง ๆ ที่ตนเองไม่ได้ร่ำรวยหรือมีทุนรอนในชีวิตมากมาย แต่ก็ทำลงไปด้วยใจที่อยากเห็นลูกหลานไทยได้มีประชาธิปไตยแม้ว่าวันนั้นตัวท่านเอง…ไม่มีโอกาสแม้จะได้เห็น
“ผมไม่ขออะไร ขอแค่ได้มีโอกาสรับใช้ประชาชน และไปต่อสู้ให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย… ผมจะอยู่ได้ถึงเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ผมขอสู้ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายก่อนจะหมดลมหายใจ”
นี่คือคำพูดของคุณวรัญชัย ที่ทำพรรคเพื่อชาติตัดสินใจต้อนรับคุณวรัญชัย โชคชนะ เข้าสู่พรรค พร้อมทั้งมอบโอกาสในการลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 1 กรุงเทพมหานคร ให้คุณวรัญชัย โชคชนะ ได้มีโอกาสอีกครั้งหนึ่งที่จะได้ทำงานเพื่อประชาชนและประชาธิปไตยอันเป็นที่รักของท่าน
พรรคเพื่อชาติขอยืนยันให้คุณวรัญชัย โชคชนะ ลงสมัครรับเลือกตั้งใน เขต 1 กทม. และขออวยพรให้คุณวรัญชัย โชคชนะ ประสบความสำเร็จในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และขอกราบวิงวอนต่อประชาชนผู้รักในความเท่าเทียม ประชาธิปไตย และการให้โอกาส ได้สนับสนุนคุณวรัญชัย โชคชนะ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อให้เป็นบทพิสูจน์และตัวอย่างของการ “ให้โอกาส” กันในสังคม เพื่อให้พวกเราทุกคนได้เดินไปสู่อนาคตที่ดีร่วมกันภายใต้ร่มเงาแห่งประชาธิปไตย…
กราบขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้ความเป็นห่วงพรรคเพื่อชาติ เราจะเดินไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง เพราะนี่คือภารกิจในการต่อสู้กับนายทุน ขุนศึก การผูกขาด และความเหลื่อมล้ำ และต้องใช้เวลา เพื่ออนาคตของลูกหลานเรา
พรรคเพื่อชาติ
7 เมษายน 2566