“ธนกร” ติง กกต.ให้ดูบางพรรคนโยบายหาเสียงขายฝัน

‘ธนกร’ ติง กกต.ให้ดูบางพรรคนโยบายหาเสียงขายฝัน

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต พร้อมด้วย นายปิยะ สีดอกบวบ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต เขต 1 นางนวลจันทร์ สามารถ คุ้มบ้าน ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินพบปะแนะนำผู้สมัคร พร้อมแจกใบปลิว นโยบายพรรค ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี

นายธนกรกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่หนักใจ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีผลงานเป็นที่ชัดเจน และได้สร้างสิ่งต่างๆ ให้กับภูเก็ตจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องโควิดได้สำเร็จและเราเปิดภูเก็ต Sandbox มาจนทั่วโลกชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ และเราสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้เร็วกว่าที่อื่น ดังนั้น วันนี้หลายสิ่งหลายอย่างมีการพัฒนาที่ภูเก็ต งบประมาณต่างๆ ก็ลงมาจำนวนมาก

ADVERTISMENT

“วันนี้รวมไทยสร้างชาติมีผู้สมัครที่มีคุณภาพอยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนทั้ง 3 เขต โดยเฉพาะเขต 1 เขต 2 เขต 3 ถือว่าเป็นผู้สมัครที่อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน บวกกับนโยบายของรวมไทยสร้างชาติไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งวันนี้ปี 2565 เรามีนักท่องเที่ยวถึง 11 ล้านคน ในปี 2566 เราตั้งเป้าไว้ 27.5 ล้านคน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยว เงินเข้าประเทศประมาณ 2.3 ล้านล้านบาท นี่คือในภูเก็ต และการพัฒนาการท่องเที่ยว และเราดูแลในส่วนของบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาทต่อเดือน และกู้ฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท เป็นการต่อยอดจากนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำมาตั้งแต่ปี 2559 วันนี้เราก็ดูแลผู้มีรายได้น้อยเรามีในเรื่องของ อสม. 2,000 บาท เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอีก 1,000 บาท เราดำเนินการ

ADVERTISMENT

นอกจากนั้นแล้วการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานถือว่าในสมัย พล.อ.ประยุทธ์เต็มรูปแบบที่สุด และในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มีงบประมาณลงมาถึง 250,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเชื่อว่าผลงานของลุงตู่เป็นที่ประจักษ์ และจะทำให้พี่น้องชาวภูเก็ตได้เทคะแนนเลือกทั้งคนเลือกทั้งพรรค โดยเฉพาะพรรคคือหมายเลข 22 ขอให้พี่น้องชาวภูเก็ตได้ให้โอกาสผู้สมัครทั้ง 3 ท่าน ขอให้เลือกยกทีมและเลือกพรรคหมายเลข 22 ด้วย

ส่วนเวทีใหญ่ตอนนี้เราก็กำลังดูในเรื่องของการวางแผนในการที่จะปราศรัยใหญ่ เมื่อวานก็ปราศรัยที่กรุงเทพฯได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนจำนวนมาก เชื่อว่าวันนี้คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหมายเลข 22 เป็นหมายเลขที่จำง่ายมาก วันแรกที่จับมาพี่น้องประชาชนจำง่าย อยู่ในใจของประชาชนจนถึงวันเลือกตั้ง พี่น้องคนไทยทั้งประเทศจะเทคะแนนให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และเทคะแนนให้กับ ส.ส.เขตของเราเพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่กังวล ยิ่งเราลงพื้นที่ยิ่งปราศรัย แล้วดูแววตาพี่น้องประชาชน นโยบายรวมไทยสร้างชาติไม่ใช่นโยบายประชานิยมแบบสุดโต่ง ไม่ใช่นโยบายขายฝัน เราทำได้จริงหมด อย่างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาตั้งแต่ปี’59 โดยใช้แพลตฟอร์ม ใช้ดิจิทัลต่างๆ ใช้เป๋าตัง ซึ่งวางระบบไว้หมดแล้ว

แต่อยากจะฝากให้ดูนโยบายของพรรคการเมืองบางพรรคเชื่อว่าเป็นนโยบายที่ขายฝัน ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่ ตรงนี้ กกต.จะต้องเข้าไปดู เชื่อว่าการที่ในอดีตที่ผ่านมา ดิจิทัล 10,000 บาทต่อคน และใช้เงินตั้ง 5-6 แสนล้านบาท ไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน แล้วทุกคนอายุ 16 ปีก็ได้หมด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน คือคนที่แสดงว่าคนรวยก็ได้ เชื่อว่าเป็นนโยบายที่ไม่ตรงเป้า และในขณะนั้นเศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัวแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปใช้เงินมหาศาลแบบนี้ และไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน

แต่ว่านโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทำมาเราทำได้จริง เราทำสำเร็จมาแล้ว เพราะฉะนั้น อยากจะฝากไปยัง กกต.ให้ช่วยดูด้วยว่าทุกนโยบายต้องมีแหล่งที่มา การที่จะใช้เม็ดเงินมากๆ เข้าไปขอคะแนนเสียงจากประชาชนเชื่อว่าคนไทยฉลาด คนไทยจะรู้อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ไม่ใช่อะไรที่ขายฝัน อะไรที่เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้จริงโดยเฉพาะ เรื่องการใช้เงินดิจิทัล

เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนคนรุ่นใหม่ที่มองประเทศอีกแบบก็อยากให้ทบทวน เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่ารุ่นใหม่ อยากให้ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เชื่อว่าวันนี้คนทุกรุ่นสำคัญหมด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก่า รุ่นพ่อรุ่นแม่ รุ่นเยาวชน มีการผสมผสานและมีการพัฒนา เป็นพลเมืองประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น คนทุกรุ่นย่อมมีความสำคัญในการพัฒนาประเทศ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image