‘สุดารัตน์’ ยกทัพกราบพระธาตุพนม ก่อนปราศรัยแห่ฟังล้นหลาม คุยผู้ประกอบการ สัญญาดันศักยภาพ ‘ท่องเที่ยวสายมูเตลู’ เชื่อมขนส่งไทย-ลาว เร่งเปิดด่านถาวร บริการ One Stop Sevice ลั่นถ้าได้เป็นรัฐบาลพร้อมลุยเดินทางไปเจรจานานาประเทศ
เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ จ.นครพนม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นำทีมคณะผู้บริหารพรรคลงพื้นที่ จ.นครพนม
โดยได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ และพบผู้ประกอบการ หอการค้าสภาอุตสาหกรรม สมาคมพ่อค้า สโมสรโรตารี จ.นครพนม ที่หมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม ก่อนเดินทางเข้านมัสการพระธาตุพนม ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และร่วมเวทีปราศรัย ณ โรงเรียนธาตุพนม และโรงเรียนบ้านแก้ง โดยมีผู้ร่วมฟังกว่า 5,000 คนในแต่ละเวที
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า จ.นครพนม เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เพราะภาคเอกชนและภาคประชาชนมีความมุ่งมั่น และมีความตั้งใจที่จะพัฒนาจังหวัดของตนเอง
โดยเมื่อวานนี้ตนเองและทีมไทยสร้างไทยได้บินไปยัง สปป.ลาว เพื่อพูดคุยประเด็นแนวทางการแก้ปัญหาฝุ่นหมอกควัน PM2.5 กับ พณฯ เพชร พรมภิทักษ์ รัฐมนตรีกระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว เพราะแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องอาศัยผู้นำที่มีความรู้ความเข้าใจและจริงใจกับประชาชน โดยทันทีที่ไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาลจะสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ แก้ฝุ่นละออง PM2.5 ให้หมดภายใน 3 ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสร้างเศรษฐกิจของภาคการท่องเที่ยวด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยถึงประเด็นด้านการขนส่งโลจิสติกส์ระหว่างประเทศและภูมิภาค เร่งเปิดด่านถาวรทั้งหมด และทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างไทยลาว ทำจุดผ่านแดนให้เป็นวัน สต๊อป เซอร์วิส ทั้งพิธีการศุลกากร อำนวยความสะดวกด้านการขนส่งระหว่างไทย-ลาว เพื่อให้รถขนส่งสามารถบรรทุกสินค้าเดินทางได้จากต้นทางไปถึงปลายทาง โดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ และต้องถ่ายสินค้า เพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ
ด้านนายสุพันธุ์กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ จ.นครพนม ภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสายมูเตลู สามารถสร้างเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับคนตัวเล็กในจังหวัดได้ ดังนั้น เราจึงสนับสนุนให้มีการสร้างแลนด์มาร์ก และส่งเสริมให้เกิดการจัดงานเอ็กซ์โปภายในจังหวัดภาคอีสาน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาเที่ยวประเทศไทยในทุกภูมิภาคของประเทศ
รวมถึงการส่งเสริมโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคต่อภูมิภาค จะทำให้การค้ามีความสมบูรณ์มากขึ้น หากพรรคไทยสร้างไทยเป็นรัฐบาลเราจะเดินทางไปเจรจากับนานาประเทศ เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างกันมากขึ้น และสร้างความร่วมมือเพื่อความเข้มแข็งของอาเซียน ต่อยอดให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวอุตสาหกรรมและการจัดแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก
“ตลาดภูมิภาคอาเซียนเป็นที่น่าลงทุนของต่างชาติมากที่สุดในเวลานี้ เพราะจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิศาสตร์โลก (Geopolitics) ที่ส่งผลกระทบทั่วโลกในหลายๆ ด้าน ทั้งในด้านดุลอำนาจของ 2 ขั้วอำนาจระหว่างชาติตะวันตกกับตะวันออก, สงครามรัสเซีย ยูเครน, สงครามการค้า เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภูมิภาค และของโลก
“หากเศรษฐกิจต่างจังหวัดเกิดความเจริญ การกระจุกตัวของประชาชน ก็ไม่ต้องไปหาทำงานที่กรุงเทพฯ ซึ่งทำให้ต้องพัฒนาโครงสร้างการขนส่งเพิ่มเติม เกิดความแออัดเพิ่มขึ้น แต่สำหรับพรรคไทยสร้างไทย เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาต่างจังหวัดเพื่อให้เกิดการสร้างงานให้คนตัวเล็กมีรายได้เพิ่มมากขึ้น” นายสุพันธุ์กล่าว
อ่านข่าว : สุดารัตน์ นำทัพ ไทยสร้างไทย บุกอีสาน ตั้งเป้าดึงเม็ดเงินเข้าจังหวัด 3,000 ล้าน/ปี