“อุปกิต” ยื่นจดหมายเปิดผนึกจี้ “อัจฉริยะ-โรม” ตรวจสอบ 22 บัญชี และ 86 บริษัท เหมือนบริษัทอัลลัวร์ เพื่อความเป็นธรรม เสมอภาค เท่าเทียม
เมื่อวันที่ 10 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ทำหนังสือถึงนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และนายรังสิมันต์ โรม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อให้ตรวจสอบนิติบุคคลและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เนื้อหาระบุว่า ตามที่ท่านเป็นบุคคลแรกๆ ที่ออกมาเปิดประเด็นเกี่ยวกับคดีของกลุ่มบริษัท อัลลัวร์ และตน รวมทั้งได้เคลื่อนไหว เรียกร้อง ร้องเรียนกับหน่วยงานในสายงานกระบวนการยุติกรรมและสื่อนำนักต่างให้ดำเนินคดีกับตน
โดยอ้างว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องและอยู่เบื้องกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ปทั้งหมด ที่รับโอนเงินค่ายาเสพติดจากบัญชีเครือข่ายยาเสพติดไปชำระค่าไฟฟ้า แล้วแปรเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้าส่งไปให้พ่อค้ายาเสพติดที่ประเทศเมียนมานั้น
ขณะนี้ตนได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และตนได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ขอให้ตรวจสอบนิติบุคคลและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้รับโอนเงินจากบัญชียาเสพติด เช่น กับกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อชำระเงินค่าไฟฟ้าในนามกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป ซึ่งบัญชีเครือข่ายยาเสพติด 16 บัญชี และต่อมาได้ตรวจสอบเพิ่มอีก 6 บัญชี รวม 22 บัญชี
จากการตรวจสอบการเดินบัญชีข้างต้นที่ปรากฏในสำนวนของศาลอาญา คดีดำที่ ย1249/2565 คดีนายตุน มิน ลัต กับพวก และเป็นบัญชีที่ พ.ต.ท.มานะพงศ์ วงศ์พิวัฒน์ ใช้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อกล่าวหา และดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป รวมทั้งตน
พบว่ามีนิติบุคคลที่ได้รับโอนเงินจากบัญชีดังกล่าวเช่นเดียวกับกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป ทั้งหมด 86 บริษัท เท่าที่ได้ตรวจสอบการรับโอนจากบัญชีเครือข่ายยาเสพติดของนิติบุคคลและบุคคลทั่วไปเหล่านี้เป็นการรับโอนจากบัญชีเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่มีการชำระเงินค่ากระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป
และที่สำคัญนิติบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด รับโอนเข้าบัญชีนิติบุคคลนั้นๆ โดยตรง แต่ไม่มีการดำเนินคดีกับนิติบุคคลเหล่านั้น แต่กลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป ไม่ได้รับเงินไว้โดยตรง ปลายทางเส้นทางเงินอยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งหมด แต่ถูกดำเนินคดี
ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้นายอัจฉริยะที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับคดีนี้เป็นพิเศษ ดำเนินการกับนิติบุคคลและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่รับโอนเงินจากบัญชียาเสพติดในลักษณะเดียวกันกับที่ได้ดำเนินการกับกลุ่มบริษัท อัลลัวร์กรุ๊ป และตนเพื่อให้เห็นว่าการดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความเป็นธรรม เสมอภาค เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่เกี่ยวกับการการเมือง และไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุปกิตได้เรียกร้องให้ตรวจสอบบัญชีธนาคารส่วนใหญ่เป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐและเอกชน ทั้งหมด 22 ธนาคาร และบริษัท 86 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำในประเทศ