“ปิยบุตร” นำทัพ “ก้าวไกล” ลุยพื้นที่สกลนคร เปิดตัว 4 ผู้สมัคร ส.ส. ยกเป็นดินแดนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย กำเนิด 2 วีรบุรุษ “ครูเตียง ศิริขันธ์-ครอง จันดาวงศ์” แอบแซะนโยบายปากท้องดี แต่ไม่ยั่งยืนถ้าการเมืองไม่ดี ลั่นต้องจัดการรัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เดินหน้าปราศรัยพบปะพี่น้องชาวสกลนครจำนวน 4 เขตเลือกตั้ง ได้แก่ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง เขต 1 อำเภอเต่างอย เขต 2 อำเภอวาริชภูมิ เขต 4 และอำเภอพังโคน เขต 6
นายปิยบุตรกล่าวว่า สกลนครเป็นดินแดนแห่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะเมื่อใดที่บ้านเมืองเกิดความอยุติธรรม ประชาชนชาวสกลนครก็จะเป็นกลุ่มที่ยืนต่อสู้อยู่แถวหน้าเสมอ บุคคลต้นแบบของการเป็นนักการเมืองในประวัติศาสตร์ไทย ก็เป็นคนสกลนคร เช่น เตียง ศิริขันธ์ และครอง จันดาวงศ์
“เตียง ศิริขันธ์ ผู้ได้รับสมญานามว่า ‘ขุนพลภูพาน’ เกิดที่สกลนคร แล้วไปเรียนมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองที่กรุงเทพฯ เขาเป็นหนึ่งในขุนพลที่ได้รับความรู้ประชาธิปไตยจากที่นี่ เรียนจบไปเป็นครู แล้วลงสมัครผู้แทน และต้องเดินทางหาเสียงด้วยการขี่ม้า เนื่องจากถนนหนทางยังไม่มีในตอนนั้น จนเป็นที่รักของประชาชน ลงสมัครกี่ครั้งก็ได้เป็นผู้แทนเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่กลายเป็นคนถืออำนาจบาตรใหญ่ กลับยังเสนอญัตติเพื่อช่วยพี่น้องประชาชนเสมอ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังเข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทย ต่อต้านญี่ปุ่น ทำให้ประเทศไทยไม่ตกเป็นฝ่ายแพ้สงคราม เขาเป็นคนที่ยืนยันว่าคนทุกคนเท่ากัน จนสุดท้ายก็มีอำนาจมืดนำตัวเขาไปปลิดชีพ ส่วนครูครอง จันดาวงศ์ ก็เป็นอีกหนึ่งนักประชาธิปไตยชาวสกลนคร ที่ถูกรัฐบาลทหารของสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้อำนาจตามมาตรา 17 จับไปยิงเป้าประหารชีวิต ก่อนตายท่านได้ลั่นวาทะอมตะว่า ‘เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ’ ขึ้นมา” นายปิยบุตรกล่าว
นายปิยบุตรกล่าวอีกว่า ชาวสกลนครทั้งสองนี้เอง ที่เป็นต้นแบบให้ผู้แทนของอดีตพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้คิดออกแบบนโยบายโดยมีประชาชนคนส่วนใหญ่เป็นศูนย์กลาง โดยนโยบายที่ดี ไม่ว่าจะเป็นของพรรคใดก็ตาม จะไม่เกิดผลสำเร็จได้หากยังไม่สามารถทำให้เกิดการเมืองดี ประชาธิปไตยสมบูรณ์ ปลอดจากรัฐประหารได้ ดังนั้น การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกพรรคก้าวไกล พรรคที่มีความกล้าหาญที่จะจัดการเรื่องยากๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปกองทัพ เอาทหารมาอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ให้รัฐบาลมีอำนาจเต็มในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพ แก้ไขกฎหมายความมั่นคง ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แก้ไขกฎหมายกฎอัยการศึก รวมทั้งจัดการลบล้างผลพวงรัฐประหาร เอาคณะก่อรัฐประหารมาดำเนินคดี
“นโยบายปากท้องดีจะไม่สามารถยั่งยืนได้ถ้าการเมืองไม่ดี รัฐบาลที่พี่น้องเลือกไป ไม่อาจดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพได้ หากไม่จัดการรัฐประหาร นโยบายการเมืองดีที่ควบคู่กับปากท้องดีคือจุดเด่นของพรรคก้าวไกล เช่น ปฏิรูปกองทัพ ให้รัฐบาลพลเรือนควบคุมกองทัพ ไม่ใช่กองทัพควบคุมรัฐบาลพลเรือน เอากองทัพกลับเข้ากรมกองไปเป็นทหารอาชีพ” นายปิยบุตรกล่าว
นายปิยบุตรกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำสองหน้าที่สำคัญ หน้าที่แรกคือ เป็นเครื่องมือรับประกันให้คณะรัฐประหารได้สืบทอดอำนาจต่อไป ซึ่งสำเร็จไปแล้วในการเลือกตั้งปี’62 แต่อีกหน้าที่หนึ่ง ซึ่งยังไม่ทำงาน และน่าจับตามอง คือการเป็นกลไกที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลที่ไม่ใช่ขั้วเดียวกับพวกรัฐประหารสืบทอดอำนาจ เช่น ใช้วิธีตัดสิทธิทางการเมือง หรือยุบพรรคการเมืองทิ้ง
ดังนั้นนโยบายต่างๆ ไม่ว่าพรรคไหนเสนอ ก็จะเกิดปัญหาการเมืองตามมา แต่พรรคก้าวไกล นอกจากจะมีนโยบายเศรษฐกิจปากท้อง ยังมีนโยบายการเมืองดีเพื่อให้ประชาธิปไตยสมบูรณ์ขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันว่ารัฐบาลจะยืนระยะทำนโยบายที่นำเสนอกับพี่น้องทุกคนได้อย่างเต็มที่
“ขอโอกาสเลือกพวกเรา เพื่อให้พวกเราได้เข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ไม่เป็นอย่างเก่า ขอโอกาสพี่น้องลงคะแนนให้พวกเรา ถ้าผู้สมัครของพรรคก้าวไกลได้เป็นผู้แทน ก็จะเป็นผู้แทนที่ดีเหมือนดังที่ เตียง ศิริขันธ์ เป็น จะเป็นรัฐบาลที่มั่นคงในจุดยืนอุดมการณ์ประชาธิปไตยอย่างที่นักต่อสู้ชาวสกลนครเป็น และจะเป็นรัฐบาลที่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ เพื่อให้ประชาชนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน กาก้าวไกลให้ถล่มทลาย กาก้าวไกลทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” นายปิยบุตรกล่าว
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดสกลนคร ประกอบด้วย
เขต 1 นายตวงสิทธิ์ พงษ์พิศ
เขต 2 นายภูเบศวร์ เห็นหลอด
เขต 3 นายภิญโญ ขันติยู
เขต 4 นายขจรศักดิ์ เบ็ญชัย
เขต 5 นายบัญชา จันทศรี
เขต 6 นายปิยะศักดิ์ เดชทองทิพย์
เขต 7 นายอภิชิต ถาบุตร