ณัฐวุฒิ ลั่น ‘ผมคือไอ้เต้น คนเสื้อแดง’ ไม่ขายวิญญาณให้ใคร ทุก 10 เมษาไม่เคยหลับลง

ณัฐวุฒิรำพึง ‘ทุก 10 เมษา’ หลับไม่ลง จะกวนเผด็จการถึงที่สุด จี้ไต่สวนการตาย ทำได้ทันที

เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง คนเสื้อแดงและคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 นำโดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตรักษาการประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำ นปช. ร่วมจัดงานรำลึก “13 ปี เมษาพฤษภา53”

บรรยากาศเวลา 16.00 น. ตัวแทนคนเสื้อแดงและคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 ร่วมกล่าวไว้อาลัยและสดุดีวีรชน

เวลา 16.53 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำ นปช. กล่าวว่า เหตุการณ์รำลึกพอดีกับช่วงเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการใช้การลงคะแนนในคูหาเอาชนะเผด็จการ และผลักดันทหารออกจากการเมืองด้วยวิธีสันติ วันนี้ตนมาในนามคนเสื้อแดง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะอีกสักครู่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะมีตัวแทนมาประกาศจุดยืนพรรค นั่นถือเป็นความรับผิดชอบทั้งต่อการเมือง ต่อประชาชน ที่จะถือเอาท่าทีและจุดยืนในวันนี้ ปฏิบัติให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชนทั้งประเทศให้ได้

ADVERTISMENT

“ผมเชื่อว่าเราพูดเรื่องนี้ มาที่นี่กันทุกปี คนที่มาส่วนใหญ่แทบจะจำที่นั่งกันได้แล้ว เรื่องราวมันสลักในหัวใจ งานรำลึกปีนี้อธิบายสัจธรรมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ว่าทุกสรรพสิ่งในโลกไม่มีสิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง มนุษย์ทุ่มเทเพื่อศึกษาทุกเรื่อง และพบว่าไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง นับประสาอะไรกับขบวนการต่อสู้ คนเสื้อแดงก็มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ จนวันที่เรายืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ หลับตา แล้วอธิบายตัวเองไม่ได้ว่าเรามาถึงนี่ได้อย่างไร วันที่หลายคนกระจัดกระจาย ตามหากันไม่เจอ ทั้งในโลกความจริงและโลกแห่งความคิด มือที่เคยกอดคอกัน ไม่สามารถค้นหาความรู้สึกเดิมได้ ความคิดนี้แทรกอยู่ในคนของขบวนการ ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้าเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำมา 13 ปีที่แล้ว เป็นเรา ขอให้รักษาจิตวิญญาณการต่อสู้ต่อไป ถ้าเรายืนยันว่ามันถูก ในอีกกี่ปีกี่เดือนข้างหน้า ก็จะถูกอธิบายว่าถูก” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า สิ่งที่เป็นชีวิต สำคัญตราบสิ้นชีวิต ความเป็นคนเสื้อแดงยังอยู่ เป็นหน้าที่เราที่ต้องทวงความยุติธรรมต่อไป เราเดินมาไกลพอสมควร การเลือกตั้งปี 2554 หลังตั้งรัฐบาล 6 มี.ค.2555 รัฐบาลมีมติ ครม.เยียวยาผู้สูญเสียทุกฝ่าย นั่นหมายความว่ารัฐบาลดังกล่าวใช้เวลาเพียง 7 เดือน ทำเรื่องการเยียวยาบรรลุผล มันจะอยู่ในประวัติศาสตร์ วันที่ 28 ต.ค.2556 หรือ 2 ปีหลังจากนั้น คดีความที่มีการแจ้ง นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ในข้อหาร่วมกันบงการฆ่าโดยเจตนาเล็งเห็นผล ถูกสั่งฟ้อง เราใช้เวลา 2 ปีคดีถึงศาลอาญา แค่ถูกตีกลับออกมาด้วยเหตุผล “ไม่มีอำนาจ” สิ่งที่จะเดินหน้าต่อทำได้ทันทีคือ ทุกชีวิตที่ยังไม่ได้ไต่สวนการตายต้องถูกหยิบมาพิจารณาในชั้นศาลทุกราย ซึ่งมีลำดับวิธีการของมัน

ADVERTISMENT

“สุดท้าย อยากเรียนทุกท่านว่า ทุกคืนวันที่ 10 เม.ย. ตั้งแต่ปี 2553 ผมไม่เคยหลับลงง่ายๆ จริงๆ บางที บางปี ถ้าอยู่คนเดียว มันก็คิดอ่านรำพึงรำพันกับตัวเองไปสารพัด บางปีอยู่ในสถานการณ์มีมิตรพี่น้องคุยข้ามรุ่ง เสื้อแดงตัวนั้นของผมมันเปียกไปหมด ไม่ใช่เหงื่อ เปียกน้ำตาประชาชนที่วิ่งมากอด มาร้องหลังเวที ผมเคยพูดหลายหน ในชีวิตคนคนหนึ่งไม่มีอะไรหนาวเท่าหนาวน้ำตาประชาชนอีกแล้ว

ผมเลยตั้งชื่อลูกสาวผม ซึ่งเกิดในสถานที่ที่ผมถูกล้อมราชประสงค์ว่า ด.ญ.ชาดอาภรณ์ แปลว่าเสื้อแดง ในชีวิตผมสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ทำขึ้นมาได้คือ ชีวิตลูก 2 คน ผมสมัครลงการเมืองตั้งแต่อายุ 25 ปี แต่มาถึงวันนี้ผมจะเป็นผู้แทน กลับมามีตำแหน่งทางการเมืองหรือเปล่า เป็นเรื่องเล็กที่สุด การเป็นคนเสื้อแดงยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต

ผมไม่เคยติดต่อขอเจรจาผู้มีอำนาจ ไปเจรจาที่คุก ผมไม่เคยก้มหัวแล้วขายวิญญาณให้ ผมคือ ไอ้เต้น ผมคือคนเสื้อแดง จะร่วมตามหาความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงอย่างถึงที่สุด ผมเอาแบบนี้ชัดๆ ตรงๆ และจะยังคงกวนตีนเผด็จการเหมือนเดิม ยังคงสามารถลุกขึ้น สบตาตัวเองในกระจกได้ทุกวัน” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวในช่วงท้ายว่า คนเสื้อแดงวิ่งหนีพ้น เห็นคนถูกยิง วิ่งมาช่วยจนล้มลงไปอีกคน พร้อมที่จะตายแทนกันได้ นี่คือคนเสื้อแดง

“คนเสื้อแดงไม่เคยแคร์ว่าคุณจะเป็น ส.ส. รัฐมนตรี หรือใครก็ตาม ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง เจอคนเสื้อแดง แต่ไม่เคยก้มหัวให้ใครที่มีอำนาจแค่จากความชอบธรรม นี่คือแบบเรา ขอให้หนุ่มสาวได้เข้าใจ ว่าคนเสื้อแดงเป็นแบบนี้ เลือกให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เลือกเอาฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปให้ได้” นายณัฐวุฒิกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image