‘พีระพันธุ์’ จ่อวางคิวให้ ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นเวทีปราศรัย กั๊กจับมือ พท.-ก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล

‘พีระพันธุ์’ จ่อวางคิวให้ ‘บิ๊กตู่’ ขึ้นเวทีปราศรัย กั๊กจับมือ พท.-ก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 12 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่หาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค รทสช. หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา พรรค รทสช. ประชุมตามปกติ ส่วนการลงพื้นที่พรรคจัดวาระให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่อยู่แล้ว โดยให้พื้นที่เป็นผู้แจ้งกำหนดการว่าจะให้ไปจุดไหนบ้าง แต่จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสมด้วยในเรื่องของการขึ้นเวทีปราศรัยในแต่ละภาคด้วย ทั้งนี้ การหาเสียงช่วงสงกรานต์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะพิจารณาลงพื้นที่เอง

เมื่อถามว่า จะมีการเจาะพื้นที่ไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า พื้นที่เป้าหมายมีทุกภาคอยู่แล้ว ส่วนเวทีดีเบตจะเห็นภาพ พล.อ.ประยุทธ์ไปร่วมเวทีดีเบตหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ทราบ แล้วแต่เรื่องและความเหมาะสม โดย พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้พิจารณาเอง

เมื่อถามต่อว่า กระแสพรรคเป็นอย่างไรบ้าง ทราบว่ามีการทำโพล นายพีระพันธุ์กล่าวว่า “ก็ดี” ส่วนที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้จำนวนเก้าอี้ ส.ส. 100 อัพยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่เคยกำหนดตัวเลข แต่จะทำให้ได้เยอะที่สุด

ADVERTISMENT

เมื่อถามอีกว่านโยบายหาเสียงของพรรคจะมีอะไรออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า การกำหนดนโยบายของพรรค พล.อ.ประยุทธ์ได้วางแนวทางไว้ให้ ซึ่งก็ตรงกับแนวทางที่พรรคได้กำหนดไว้ ย้ำว่านโยบายต่างๆ จะต้องมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ไม่คิดแต่เพียงว่าให้ได้คะแนนเสียง เพราะการเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรหรือมาทำหน้าที่บริหารประเทศ จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัวของเรา

“ถ้าเราเริ่มต้นเข้ามาด้วยการที่คิดถึงแต่ส่วนตัวของเราเอง เราจะบริหารประเทศไม่ได้ และจะทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่ได้ ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงได้มอบแนวทางให้พรรคในการกำหนดนโยบายต่างๆ คือ จะต้องไม่กระทบระเบียบวินัยการเงินการคลัง และไม่กระทบงบประมาณ รวมถึงถ้าเป็นไปได้ให้คงงบประมาณเดิม หรือถ้าจำเป็นต้องเพิ่มก็อย่ามาก และอย่าให้กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นพื้นฐานของประเทศในอนาคต”

ADVERTISMENT

เมื่อถามอีกว่าพรรคการเมืองบางพรรคออกนโยบายสุดโต่งทำให้กระทบกับนโยบายพรรค รทสช. หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า เชื่อว่าแต่ละพรรคมีวิธีการที่แตกต่างกันไป แต่เราจะไม่ใช้วิธีการแบบนั้น ก็แล้วแต่ประชาชนจะพิจารณา สุดท้ายผลกระทบต่อประเทศบ้านเมืองเป็นอย่างไร

เมื่อถามต่อว่านโยบายบัตรดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย (พท.) อาจจะกระทบทำให้ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง นายพีระพันธุ์กล่าวว่า “นั่นแหละ ถึงได้บอกว่าประชาชนต้องพิจารณา มันไม่ใช่ว่าได้ไปหมด มันมีทั้งได้และเสียไม่ใช่ว่าได้อันนี้แล้วได้ทุกอย่าง เพราะถ้าได้อันนี้มันต้องไปตัดอีกเยอะ ที่สำคัญได้จริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ และรูปแบบของเงินในลักษณะดังกล่าวทำให้กระทบต่อภาวะความเชื่อมั่น ระหว่างประเทศในเรื่องค่าเงินบาท อะไรต่างๆ ด้วยหรือไม่ อันนี้ต้องพิจารณาซึ่งก็แล้วแต่พรรคข่าวเราไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ เพราะแต่ละภาคก็มีแนวทางของเขา”

เมื่อถามอีกว่าใกล้ถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง มีข้อกังวลอะไรหรือไม่ในการหาเสียง นายพีระพันธุ์กล่าวว่า คงไม่กังวล ตนทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแค่นั้นพอแล้ว ส่วนบนเวทีปราศรัยในกรุงเทพฯ ที่พูดถึงเรื่องจะจัดการกลุ่มชังชาติ มีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกต นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนไม่ได้พูด ไม่ได้สังเกตอะไรทั้งนั้น ตนบอกอย่างไรก็อย่างนั้น ความคิดแต่ละคนแตกต่างกัน ตามสุภาษิตไทยคับที่อยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก ฉะนั้นถ้าใครอึดอัดใจ ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้ อย่างนี้เป็นธรรมดาตามสุภาษิตไทย คับที่ไม่เป็นไรแต่คับใจมันอึดอัด ฉะนั้นถ้าอึดอัดก็อย่าอยู่ ก็แค่นั้นเองตนพูดไปตามสุภาษิตไทย

เมื่อถามย้ำว่าแต่บางฝ่ายมองว่าประเทศกำลังต้องการความสงบ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ก็แล้วแต่คนจะมองว่าแบบไหนสงบ ทุกคนมีสิทธิ์จะคิดตนก็มีสิทธิ์จะคิดของตนใช่หรือไม่ ต่างคนก็ต่างคิด คนอื่นคิดแล้วก็พูดอย่างที่เขาคิดได้ ตนก็พูดเหมือนที่ตัวเองรู้สึก ว่าสุภาษิตไทยมันเป็นแบบนี้เท่านั้นเอง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ แม้คะแนนผลโพลความนิยมจะสูงขึ้นแต่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท. ก็มีคะแนนนิยมสูงเป็นอันดับหนึ่ง นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ก็ไม่เป็นอะไร บอกแล้วตอนทำงานการเมืองแบบสบายๆ ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนหน้าที่เราคือทำสิ่งที่ดีที่สุด และเสนอสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด สำหรับประชาชนและบ้านเมือง ไม่ใช่ดีที่สุดสำหรับเรา

เมื่อถามว่า ตอนนี้แม้จะยังไม่รู้ผลเลือกตั้งแต่พรรค รทสช.วาดฝัน เรื่องการจับขั้วรัฐบาลไว้หรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่มี ตนบอกแล้วสำหรับคนอื่นตนไม่ทราบ แต่ละคนแตกต่างกัน สำหรับตนไม่เคยทำแบบนั้น ส่วนชัดเจนแล้วหรือไม่ว่าจะไม่จับมือกับพรรค พท. และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนไม่ได้พูดถึงพรรคใดพรรคหนึ่ง ทุกครั้งที่พูดในรายการต่างๆ หรือเวลาให้สัมภาษณ์จะพูดเสมอว่า พรรคที่จะทำงานด้วยกันได้จะต้องมีหลักการและอุดมการณ์เดียวกัน คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชนเท่านั้นเองจะเป็นพรรคไหนก็แล้วแต่ ถ้าทำงานเพื่อสถาบันหลักของบ้านเมือง ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง ก็ทำงานด้วยกันได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image