กรธ.เขียนบทความ “ข้อบิดเบือนร่างรธน.” เผยแพร่ หวังป้องกันการบิดเบือน

กรธ.จัดทำบทความ”ข้อบิดเบือนร่างรธน.”เผยแพร่ โต้ประเด็นหลังถูกคนบางกลุ่มนำไปขยายผลแบบผิดๆ

เมื่อเวลา 14.00 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระพิจารณาแนวทางการดำเนินงานภายหลังเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญเบื้องต้น โดยนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ.แถลงว่า ที่ประชุมกรธ.ได้จัดทำบทความเรื่อง”ข้อบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ”เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกรธ.เพื่อป้องกันการนำไปตีความหรือขยายต่อในทางที่ไม่ถูกต้อง ยกตัวอย่าง ประเด็นข้อกล่าวหาว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนน้อยลงกว่ารัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 ทางกรธ.ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง โดยหลักการดังกล่าวกรธ.ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 55 และมาตรา 56 ส่วนข้อกล่าวหาว่าเราตัดมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 เกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาพ ทำให้จะไม่ได้รับการคุ้มครอง ขอชี้แจงว่ากรธ.ได้ดำเนินการโดยให้อยู่ในรูปของบทบัญญัติหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และหมวดต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการด้วยกระบวนวิธีประการใดประการหนึ่งเพื่อให้สิทธิและเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้รับการตอบสนอง

นายอุดม กล่าวว่า ขณะที่ความพยายามบิดเบือนว่ามีการตัดสิทธิ์ประชาชนในการเลือกส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยไม่สามารถเลือกจากพรรคที่คิดว่าเหมาะสมได้ แต่เลือกได้เฉพาะแบบแบ่งเขต ข้อเท็จจริงเรายังคงสิทธิ์ของประชาชนที่จะเลือกส.ส.ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ แต่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเสียงโดยให้ลงคะแนนในบัตรเลือกตั้งเพียงครั้งเดียวแต่สามารถเลือกผู้สมัครได้ทั้งสองแบบ ทำให้ทุกคะแนนมีความหมายไม่ถูกทิ้ง ส่วนข้อบิดเบือนว่ามีการวางกลไกทางการเมืองให้เกิดรัฐบาลผสมหลายพรรค อ่อนแอไร้ซึ่งเสถีรภาพ พรรคขนาดกลางมีอำนาจต่อรองสูง มีองค์กรอิสระมาคุมการทำงานของรัฐบาล ซึ่งในร่างนี้ต้องการให้พรรคการเมืองตระหนักให้ความสำคัญในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและนำนโยบายทุกด้านมาบริหารประเทศ ไม่มีการวางกลไกลใดที่จะทำให้รัฐบาลอ่อนแอ การทำให้พรรคการเมืองร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลทำให้การกำหนดนโยบายครอบคลุมทุกด้าน หากรัฐบาลบริหารประเทศด้วยความเข้มแข็งการบริหารประเทศย่อมมีความต่อเนื่อง มีความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทำให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

โฆษกกรธ.กล่าวต่อว่า สำหรับข้อกล่าวหาว่ากรธ.เพิ่มอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนักการเมืองและฝ่ายต่าง เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระอยู่เหนือรัฐบาลรัฐสภา กรธ.ขอยืนยันว่าในร่างรัฐธรรมนูญไม่มีการบัญญัติเพิ่มอำนาจให้ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เพิ่มหน้าที่ความรับผดชอบในการแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ทางการเมือง หรือเกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และยังเพิ่มคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหาที่มีทั้ง ประธานศาลฏีกา ประธานสภา ผู้นำฝ่ายค้าน และประธานศาลปกครองสูงสุด ทำการสรรหาเพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้กับศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงข้อกล่าวหาว่ากรธ.ปิดกั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้เกิดวิกฤต ขัดขวางการพัฒนาการเมืองและประเทศ และนำไปสู่การฉีกรัฐธรรมนูญด้วยอำนาจนอกระบบ ก็ยืนยันว่าไม่จริงเพราะหลักการแก้ไขก็ยังยืนยันหลักการเดิมคือเปิดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หากมีจำนวนเสียงสนับสนุนที่เหมาะสมตรงกับหลักสากล แต่ไม่ให้นักการเมืองเข้ามาใช้อำนาจล้มล้างได้

นายอุดม กล่าวว่า ส่วนการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากเวทีต่างๆทั้ง 4 เวทีนั้นทางกรธ.ก็จะนำไปรวบรวมเพื่อนำความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆมาประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญต่อไป ซึ่งประเด็นสิทธิและเสรีภาพเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจและเป็นห่วงกังวลมากเช่นเดียวกับโครงสร้างทางการเมือง ระบบการเลือกตั้ง ที่มาส.ส.ที่มาส.ว.หน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถือเป็นวันสุดท้ายที่กรธ.วางกรอบให้ทุกหน่วยงานได้เสนอความเห็นเข้ามา แต่หากหลังจากนี้มีการส่งความเห็นและข้อเสนอแนะมาเพิ่มเติมกรธ. ก็คงต้องพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะนำมาประกอบการพิจารณาหรือไม่ เพราะหากประเด็นใดที่ได้ข้อยุติไปแล้วต้องกลับมาทบทวนหรือพิจารณาใหม่ก็จะทำให้กระบวนการทำงานเกิดความล้าช้าได้

ADVERTISMENT