| ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
|---|
คอลัมน์หน้า 3 : ช่วงชิง การนำ ‘ลุงตู่’ กับ ‘ลุงป้อม’ พื้นที่ การเมือง
มองในทาง “ส่วนตัว” ไม่มีใครสงสัยในความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ตราบที่ยังเรียกขานว่า “ไอ้ตู่” ตราบที่ยังเรียกขานว่า “พี่ป้อม”
กระนั้น หากมองเข้าไปยังความสัมพันธ์ระหว่าง 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ 1 พรรคพลังประชารัฐ
ก็ต้องยอมรับว่าดำเนินไปอย่าง “เบียดขบ” ต่อกันและกัน
ตัวอย่างอันเด่นชัดอย่างยิ่ง สดๆ ร้อนๆ น่าจะเป็นตัวอย่างจากพื้นที่ เขต 3 ของจังหวัดพะเยา
เหมือนกับเป็นเรื่องระหว่าง “เสธ. น.” กับ “เสธ. ห.”
แต่ในเมื่อที่ยืนอยู่เบื้องหลังคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และที่ยืนอยู่เบื้องหลังคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จำเป็นต้องขึ้นบนภู ดูเสือสัประยุทธ์กัน
ยิ่งหากมองไปยังแต่ละจังหวะก้าวทางการเมืองอันสำแดงโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยิ่งละเอียดอ่อน
เหมือนกับจะเป็น “ทาง” เดียวกัน แต่ก็ “ช่วงชิง” กัน
เด่นชัดยิ่งว่า คำประกาศที่สวนเบญจสิริโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นการปักธงในทางความคิดอันแหลมคม
เพราะเป็นประกาศ “ไล่” คนออกจาก “ประเทศ”
ผลสะเทือนอย่างฉับพลันก็คือ เกิดการขยับตัวภายในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ บนเวทีปราศรัย
เล่นงาน “ไพร่หมื่นล้าน” ขวางแผน “เปลี่ยนประเทศ”
จากนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ก็ออกมาแถลงการณ์ปฏิเสธพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธพรรคก้าวไกล
โดยมี นายสกลธี ภัททิยกุล เล่นบท “ลูกคู่”
ไม่ว่าจะมองบทบาทของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ไม่ว่าจะมองบทบาทของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน
ต้องการแข่งกับ “คำประกาศ” ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
มิได้เป็นการแข่งในลักษณะอันเป็น “ความขัดแย้ง” ตรงกันข้าม เป็นการเดินลงไปใน “แนว” เดียวกันทางการเมือง
เป็นแนว “เข้ม” เป็นแนวแบบ “มวลมหาประชาชน”
นี่คือแนวที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ถนัดตอนเป็น ส.ว. นี่เป็นแนวทางที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รับรู้เมื่ออยู่พรรคประชาธิปัตย์
เพียงแต่ต้องการให้ “เข้ม” กว่า “ร้อนแรงกว่า”
เบื้องหลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เบื้องหลัง นายไพบูลย์ นิติตะวัน คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นี่คือการชิงการนำ โดยสมุนบริวารที่รายล้อม
ความสัมพันธ์ระหว่างพรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคพลังประชารัฐจึงเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง 2 ป.
เป็นทั้ง “ร่วม” กัน เป็นทั้ง “ต่อสู้” กัน
เพียงแต่ต้องการแสดงให้เห็นว่าใครเข้มกว่า ใครจัดกว่า เป็นการชิง “ธงนำ” ระหว่างพรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พรรคพลังประชารัฐ
ระหว่าง “ลุงตู่” กับ “ลุงป้อม”
