09.00 : INDEX ตั้ง ปราการ มวลมหา ประชาชน ก่อกระแสต้าน เพื่อไทย ก้าวไกล
การออกมาระบุว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครจะเป็นการต่อสู้อันแหลมคมระหว่าง 1 พรรคเพื่อไทย 1 พรรคก้าวไกล โดยมี 1 พรรครวมไทยอาจเบียดแทรกเข้ามาได้บ้าง
หากมิใช่เป็นการระบุและยืนยันโดย”นิด้าโพล” การยืนยันเช่นนี้ก็แทบไม่มีความหมาย
เนื่องจากมิได้เป็นการระบุอย่างเลื่อนลอย ว่างเปล่า ตรงกันข้าม เป็นการระบุบนพื้นฐานแห่งการสำรวจมาอย่างต่อเนื่อง และยิ่งกว่านั้น”นิด้าโพล”เคยมีผลงานน่าเชื่อถือมาแล้วอย่างแจ้งชัด
กรณีคะแนนเสียงของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ยืน 1 มาอย่างต่อเนื่องจากการสำรวจระหว่างการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. สร้างความน่าเชื่อถือให้กับ”นิด้าโพล”เป็นอย่างสูง
กล่าวสำหรับการเลือกตั้งในพื้นที่กทม.เดือนพฤษภาคม ปรากฎอย่างค่อนข้างเด่นชัดว่าคะแนนนำเป็นของพรรคเพื่อไทย ตามมาด้วยพรรคก้าวไกล
ขณะเดียวกัน ก็มีพรรคการเมืองอย่างพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคไทยสร้างไทย เสนอตัวเข้ามาอย่างแข็งขัน
ที่ระบุว่าเหลือเพียงพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จึงท้าทาย
หากใครติดตามเวทีดีเบตของช่อง 3 ที่เชิญ”ขุนพลกทม.”ของแต่ละพรรคการเมืองมาประชันวิสัยทรรศน์ ก็จะสัมผัสได้ในความเป็นจริงบางประการซึ่งไม่ควรมองข้าม
เป็นความเป็นจริงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคพลังประชารัฐคือพรรคที่โดดเด่นขึ้นมาและมีจำนวนส.ส.เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
แต่ในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 พรรคพลังประชารัฐแตกเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติและส่วนหนึ่งไปเป็นขุนพลให้กับพรรคภูมิใจไทย
หากยึดตามผลการสำรวจของ”นิด้าโพล”เท่ากับยืนยันว่าแนวใหม่นี้กลับเป็นประโยชน์ให้พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
มีความพยายามเปิดท่าทีที่คมเข้มแข็งกร้าว ไม่ว่าจะเป็นการไล่ พวก”ชังชาติ”จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จากพรรคพลังประชารัฐ
รวมถึงการยืนยันไม่แตะมาตรา 112 ของพรรคประชาธิปัตย์
เป้าหมายเฉพาะหน้าคือ การสร้างปราการทางการเมืองที่กัน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ออกไปและฟื้นพันธมิตรมวลมหาประชาชนก่อนรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
ป้อมนี้จะมีผลต่อการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคมหรือไม่จึงท้าทายเป็นอย่างสูง