“องคมนตรีเกษม”ชี้ศก.พอเพียงไม่ใช่เรื่องศักดิ์สิทธิ์เกินเอื้อม-แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ใครๆจับต้องได้

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ สำนักงานป.ป.ช. ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดงานจรรยาบรรณดีเด่น ประจำปี 2559 (สานต่อที่พ่อทำ คุณธรรมนำธุรกิจยั่งยืน) เพื่อมอบรางวัลให้กับสถานประกอบการที่ดำเนินธุรกิจตามหลักจรรยาบรรณ เพื่อยกย่องและเป็นขวัญกำลังใจให้ภาคธุรกิจเอกชน ที่ประกอบการค้าด้วยหลักบรรษัทภิบาล โดยเฉพาะเรื่องความโปร่งใสและความซื่อสัตย์สุจริต

นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวระหว่างการเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติธุรกิจที่มีจรรยาบรรณและธรรมาภิบาล ในงานจรรยาบรรณดีเด่น ปี 2559 (สานต่อที่พ่อทำ คุณธรรมนำธุรกิจยั่งยืน) ว่า ช่วงที่โลกประสบกับปัญหาวิกฤตทางการเงิน มีโมเดลทุนนิยมอยู่ 2 ประเภทคือ ทุนนิยมคุณธรรมที่เน้นความพอประมาณ และทุนนิยมสามานย์ที่เน้นผลกำไรสูงสุด แต่ทั้ง 2 โมเดลยังขาดความยั่งยืน ดังนั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ รัชกาลที่ 9 พระราชทานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในปี 2540 หลังเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในไทยไม่นาน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจึงได้รับความสนใจจากวงการวิชาการโลกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยปรากฎในตำราเศรษฐศาสตร์มาก่อน แต่เป็นการเตรียมความพร้อม วางแผนและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหรือวิกฤตในชีวิต โดยประกอบด้วยความเข้มแข็งทั้ง 4 ด้านคือ วัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม

“เพราะฉะนั้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจึงไม่ใช่เรื่องศักดิ์สิทธิที่เอื้อมไม่ถึง แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาพัฒนาตนเอง ครอบครัวและบริษัทได้ และเมื่อถามว่าปรัชญานี้จะนำไปใช้ในบริษัทได้อย่างไร อย่างง่ายที่สุดคือนำไปใช้สร้างความเข้มแข็ง โดยประเมินจุดอ่อนของตน แล้วแก้ไขให้ดีขึ้น ในเงื่อนไขการสร้างความรู้ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเน้นเรื่องนี้มากว่าจะต้องรู้จริงและทำวิจัยอย่างง่ายได้ อาทิ สอนคนขับรถในบริษัทให้บันทึกการใช้รถ เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล ประโยชน์ของการใช้ความรู้นี้จะพัฒนาประสิทธิภาพของพนักงานองค์กรให้เก่งขึ้น เงื่อนไขในการสร้างคุณธรรม โดยเฉพาะการซื่อสัตย์ สุจริต และเงื่อนไขในการใช้ชีวิต คือต้องดำเนินชีวิตด้วยความอดทน มีความเพียร มีสติปัญญาและความรอบคอบ โดยการเดินตามทางสายกลาง พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวเอง เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจและสังคมให้มีความสุข คุณธรรมและความยั่งยืน พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว” นายเกษมกล่าว

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงบทบาทด้านการส่งเสริมจรรยาบรรณแก่ภาคธุรกิจ เพื่อสานต่อที่พ่อทำว่า หอการค้าไทยได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาขยายผลให้ผู้ประกอบการนำมาประยุกต์เป็นพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยง ด้วยการรู้จักพอประมาณ มีเหตุมีผลและมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ซึ่งจะเป็นเกราะคุ้มกันความเสี่ยงต่างๆ ท่ามกลางบริบทของเศรษฐกิจและสังคมโลกที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ดังนั้นหอการค้าและภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันสร้างค่านิยมแห่งความดีด้วยการเชิดชูเกียรติธุรกิจที่มีจรรยาบรรณและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรธุรกิจอื่นๆ ได้ยึดถือและร่วมเป็นเครือข่ายพลังที่แข็งแกร่ง และร่วมตั้งปณิธานสานต่อที่พ่อทำ คุณธรรมนำธุรกิจยั่งยืน

Advertisement

นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ตลาดในประเทศ ธุรกิจเอสซีจี ซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี กล่าวในงานเสวนาเรื่อง “สานต่อที่พ่อทำ คุณธรรมนำธุรกิจยั่งยืน” ว่า ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เอสซีจีเป็นบริษัทที่มีหนี้มากที่สุดในบรรดาบริษัทขณะนั้น จึงจะต้องปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อบริหารธุรกิจให้อยู่รอดได้ โดยการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นศาสตร์พระราชามาปรับใช้ โดยการลดบทบาทธุรกิจที่ไม่จำเป็นไปกว่า 50 ธุรกิจ คงไว้เฉพาะธุรกิจที่เอสซีจีมีความเชี่ยวชาญ ตามหลักความมีเหตุผล การประมาณตนของหลักเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้นประมาณ 5 ปี จึงทำให้เอสซีจีมีกำไรสูงถึง 20,000-30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนปี 2540 ที่มีกำไรประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท และหลังจากนั้นเอสซีจีก็ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ หรือรัชกาลที่ 9 ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเมื่อน้อมนำหลักการนี้มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจแล้ว จะต้องหยุดพัฒนา แต่จะต้องประเมินความสามารถของตน ทำตามกำลังความสามารถและสิ่งที่มีอยู่ในหน้าตัก เพื่อพัฒนาธุรกิจให้มีความยั่งยืน เป็นภูมิคุ้มกันในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานจะมีการมอบประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น ประจำปี 2559 จากหอการค้าไทย จำนวน 11 รางวัล อาทิ บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท สไมล์ คอนโด (2011) จำกัด ,การมอบรางวัลบรรษัทภิบาลดีเด่น ประจำปี 2559 จากสำนักงานป.ป.ช. จำนวน 8 รางวัล อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท รอยัล พารากอน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และการมอบรางวัลธรรมาภิบาลธุรกิจดีเด่นประจำปี 2559 จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แบ่งเป็น ระดับประเทศ จำนวน 11 ราย และระดับจังหวัด 26 ราย อาทิ บริษัท กัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด บริษัท แมงโก้ คอนซัลแตนท์ จำกัด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image