การออกมาเปิด “ข้อมูล” อันเกี่ยวกับ “ตัวตน” ของ นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โดย นายถวิล ไพรสณฑ์ เหมือนกับจะเป็น “เรื่องส่วนตัว”
หากเป็นการเปิดของ “บุคคลอื่น” อาจใช่
แต่กล่าวสำหรับบทบาทของ นายถวิล ไพรสณฑ์ แล้ว “สังคม” สัมผัสได้ว่า ไม่น่าจะเป็น “เรื่องส่วนตัว”
เพราะ นายอมร วาณิชวิวัฒน์ เป็น “บุคคลสาธารณะ”
1 เขาอยู่ในฐานะเป็น”กรรมการ” แห่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือที่รู้จักในชื่อย่อว่า “กรธ.”
1 เขาเป็น “โฆษก” ของ “กรธ.”
ยิ่งกว่านั้น หากศึกษาและทำความเข้าใจต่อ
บทบาทของ นายถวิล ไพรสณฑ์ ก็จะยิ่งเข้าใจว่าไม่ใช่ “เรื่องส่วนตัว”
หากเป็นเรื่องอันเกี่ยวกับ “รัฐธรรมนูญ”
แม้ว่า “เนื้อหา” ของร่างรัฐธรรมนูญจะสัมพันธ์ไปยัง “นักการเมือง” และแม้ว่า นายถวิล ไพรสณฑ์ จะเป็น “นักการเมือง”
แต่ นายถวิล ไพรสณฑ์ ก็เป็นนักการเมือง “พันธุ์พิเศษ”
ที่ว่าเป็น “พันธุ์พิเศษ” มิได้มาจากความเป็นจริงที่เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาชน และเคยเป็นสมาชิกพรรคพลังธรรม เท่านั้น
หากผู้คนรับรู้ว่า นายถวิล ไพรสณฑ์ เป็นบุคคล “พันธุ์พิเศษ” ตั้งแต่ทำงานในศาลา “กรุงเทพมหานคร” มาแล้ว
แท้จริงแล้ว การยกระดับ “กรุงเทพมหานคร”ให้เป็นหน่วยงานพิเศษก็มาจาก “สมองก้อนโต” ของ นายถวิล ไพรสณฑ์ ด้วยการผลักดันอย่างต่อเนื่องผ่านร่างพ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร
กระทั่งนำไปสู่ “การเลือกตั้ง” ผู้ว่าฯกทม.โดย”ประชาชน”
ทั้ง นายถวิล ไพรสณฑ์ ก็มิได้เป็นนักการเมือง “หลักลอย” ตรงกันข้าม เขาเป็น”สิงห์ดำ”จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผ่านการศึกษาระดับ”มหาบัณฑิต”จากสหรัฐอเมริกา
แม้จะไม่มีคำว่า “ดร.” นำหน้า แต่ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ดร.อมร วาณิชวิวัฒน์ อย่างแน่นอน
คำถามก็คือ แล้ว นายถวิล ไพรสณฑ์ เปิดโปงอะไร นายอมร วาณิชวิวัฒน์
รายละเอียดของ “การเปิดโปง” นี้ต้องฟังจากถ้อยคำของ นายถวิล ไพรสณฑ์ โดยตรงว่าเป็นเรื่อง “ส่วนตัว” หรือว่าเป็นเรื่อง “สาธารณะ”
“ถ้อยคำ” โดยละเอียดเป็นดังนี้
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ จบปริญญาเอก เป็นอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็น สนช.ชุดปฏิวัติ 2549
เป็นที่ปรึกษา พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
เป็นกรรมการที่ปรึกษาด้านต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ผ่านหลักสูตรวปอ.รุ่น 56 หลักสูตรปรอ.รุ่น 26
ได้ดิบได้ดีในยุคปฏิวัติ 2 ครั้ง และในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“เมื่อทราบที่มาแล้วประชาชนคงคิดได้ว่านายอมรเป็นคนอย่างไร อยากถามนายอมรว่าที่นักการเมืองเสนอไม่ให้ตัดทอนสิทธิของประชาชนที่มีมาแล้วในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ทำเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองหรือ”
“อย่าเหมารวมนักการเมืองว่าใช้ไม่ได้ทุกคน เพราะนักการเมืองมีทั้งดีและไม่ดีเช่นเดียวกับอาจารย์ที่มีทั้งดีและไม่ดี”
“เมื่อเป็นกรธ.ต้องทำจิตให้ว่าง ใครเสนอแนวความคิดที่ไม่สอดคล้องหรือตามธงที่กรธ.ตั้งไว้ อย่าลืมว่าประเทศไทยเป็นของทุกคน อย่าเหมาว่าเป็นของกรธ.เท่านั้น”
“การที่นายอมรเข้าทำงานรับใช้คณะปฏิวัติ หรือรับใช้นักการเมืองพรรคเพื่อไทย คงไม่มีใครว่า เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของนายอมร”
ท่วงทำนองของ นายถวิล ไพรสณฑ์ ดำเนินไปอย่างไร
1 เป็นการนำเสนอ”ฐานข้อมูล” พื้นฐานของ นายอมร วาณิชวิวัฒน์
ขณะเดียวกัน 1 เปิดกว้างอย่างเต็มที่ให้ “ประชาชน” นำเอาข้อมูลเหล่านั้นไปขบคิดและพิจารณา
พิจารณาในความเป็น”ตัวตน” ของ นายอมร วาณิชวิวัฒน์
พิจารณา “ความเป็นจริง” ของ นายอมร วาณิชวิวัฒน์
