จุรินทร์ ลั่นไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ตาย มั่นใจปักธงพื้นที่สระบุรี ดีใจครอบครัวอดิเรกสารเข้าร่วม

จุรินทร์ ลงพื้นที่สระบุรี ดีใจที่ ครอบครัวอดิเรกสาร เข้าร่วม มั่นใจปักธงในพื้นที่สระบุรีได้อย่างแน่นอน พร้อมลั่นทำให้เต็มที่ ไม่เป็นรัฐบาลก็ไม่ตาย

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 เม.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี ช่วยหาเสียงให้กับนายปรพล อดิเรกสาร ผู้สมัคร ส.ส.สระบุรี เขต 1 โดยมีนายปองพล อดิเรกสาร บิดา อดีตนักการเมืองดังเจ้าของพื้นที่ ร่วมลงพื้นที่ด้วย

นายจุรินทร์กล่าวถึงการลงพื้นที่สระบุรีในครั้งนี้ว่า ตระกูลอดิเรกสารให้เกียรติกับพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมงานกับเรา ก็ยิ่งทำให้ประชาธิปัตย์สระบุรีเข้มแข็งขึ้นเป็นการรวมพลัง 2 ต่อ คูณ 2 ยกกำลัง 2 ในการที่จะทำให้เรามีโอกาสที่จะปักธงที่นี่ดังเช่นที่เคยปักธงมาหลายครั้งในอดีต ถ้าให้มองว่านโยบายของพรรค แบบไหนเหมาะกับพื้นที่สระบุรี ต้องบอกก่อนว่าความจริงเป็นนโยบายในภาครวม แต่ว่าสำหรับสระบุรี มันเป็นทั้งพื้นที่เกษตรกรรม แล้วก็เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม สำหรับเกษตรกรรมที่นี่ก็ปลูกข้าว ข้าวโพด ปลูกอ้อยก็เยอะ ซึ่งประชาธิปัตย์ก็มีนโยบายชัดเจนสนับสนุนเกษตรกรอยู่แล้ว ประกันรายได้เกษตรกรทำได้ไว ทำได้จริง อันนี้ก็คือสิ่งที่เราเดินหน้าต่อไป แล้วก็เป็นประโยชน์ในพื้นที่สระบุรีมาก เพราะชาวนาเราก็ประกันรายได้ ขณะเดียวกันยังมีเงินสำหรับชาวนาที่จะช่วยเหลืออีก ครัวเรือนละ 3 หมื่นบาท สำหรับผู้ปลูกข้าว นอกจากนั้นข้าวโพดก็ประกันรายได้เหมือนกัน กิโลละ 8 บาท 50 สตางค์

ขณะนี้ตนเองเข้ามาดูแลร่วมกับรัฐมนตรีเกษตร ข้าวโพดตอนนี้ราคาไปถึงโลละ 12 บาทกว่าแล้ว ซึ่งอันนี้คือราคามาตรฐาน เพราะฉะนั้นข้าวโพดราคาดีมาก ส่วนอ้อยก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ซึ่งอันนี้ก็คือการเกษตรที่ประชาธิปัตย์มีนโยบายชัดเจน นอกจากนั้นในเรื่องของอุตสาหกรรมหัวใจสำคัญที่ประชาธิปัตย์เน้น ก็คือเน้นในเรื่องของการส่งเสริม Startup ซึ่งเป็น sme ประเภทหนึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ นอกจากนั้น sme ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ นิติบุคคล 100% เป็น SME 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ที่จังหวัดสระบุรีนี่ถือว่าเยอะมากหลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบอุตสาหกรรมอาหารพื้นบ้าน อุตสาหกรรมอาหารพื้นเมือง

Advertisement

รวมทั้งเรื่องของ SME ในอุตสาหกรรมย่อย กลุ่มแม่บ้าน สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์โคนม อันนี้ก็ถือว่าเป็น SME ประเภทหนึ่งที่ประชาธิปัตย์ชัดเจน เราจะต้องการสนับสนุนให้ Startup SME มีแต้มต่อ ทั้งด้านองค์ความรู้การผลิต การตลาด แล้วก็ไปถึงการเข้าถึงแหล่งทุน ซึ่งจะเตรียมเงินไว้ทั้งหมด 3 แสนล้านบาท สำหรับให้ SME Startup เข้าถึงแหล่งทุนเงื่อนไขผ่อนปรน ดอกเบี้ยต่ำ และก็มีโอกาสที่จะไปต่อเงินให้กับตัวเอง ต่อลมหายใจให้ตัวเองด้วย ถ้าภาวะเศรษฐกิจมันตกต่ำ มันไม่ได้ขึ้นมาวันใดวันหนึ่ง อันนี้ก็เป็นนโยบายชัดเจน

นอกจากนั้นสหกรณ์โคนม นี่ก็เป็นนโยบายประชาธิปัตย์ ต้องการส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม แม้แต่โคเนื้อ เราก็มีเป้าหมายชัดเจน ตอนนี้ตนเองไปเปิดตลาดตะวันออกกลางไว้แล้ว ทางนู้นพร้อมที่จะรับซื้อ ขอให้ได้มาตรฐานฮาลาล แต่โคนมนโยบายชัดเจนอันนึง ที่มาช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมโดยเฉพาะนมโรงเรียน ฟรี 365 วัน ซึ่งปัจจุบันเราฟรีอยู่ 200 วัน ซึ่งเป็นนโยบายเดิมของประชาธิปัตย์ ฟรีตั้งแต่อนุบาลถึงชั้น ป.6 แต่ว่า 200 วัน เฉพาะวันเปิดเรียน แต่ถัดจากนี้รัฐบาลประชาธิปัตย์จะเพิ่มเป็น 365 วัน ให้ทุกวัน ซึ่งอันนี้ไม่ได้ช่วย เฉพาะให้สุขภาพเด็กแข็งแรงทั้งสมองทั้งร่างกาย แต่ว่าช่วยเกษตรกรโคนมด้วย ให้มีตลาดที่รองรับชัดเจนเพิ่มขึ้น ก็จะช่วยให้ราคานมดีขึ้นด้วย

อันนี้ก็คือนโยบายที่ตรงไปตรงมา และชัดเจนที่เป็นประโยชน์แก่พี่น้องชาวสระบุรีที่เห็นชัด นอกจากนั้นยังมีอินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ซึ่งสระบุรีก็เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะได้ประโยชน์ในการเข้าถึงองค์ความรู้ และก็กลุ่มแม่บ้าน SME ต่างๆ ก็ใช้เข้าออนไลน์ได้ รวมทั้งนโยบายธนาคารหมู่บ้านชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินออม และเป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับเกษตรกร สำหรับกลุ่มแม่บ้าน และพี่น้องชาวสระบุรีทุกคนที่จะเข้าถึงแหล่งเงินได้เช่นเดียวกัน ส่วนประชาธิปัตย์พร้อมเป็นทุกอย่าง เราก็พิสูจน์มาตลอดระยะเวลายาวนาน ตนเองหัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน เคยเป็นทั้งประธานวิปฝ่ายค้าน และประธานวิปฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเราเป็นอะไร เราก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่

Advertisement

นายจุรินทร์กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ควรประกาศจุดยืนเลือกข้างหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมาภาวะประชาธิปัตย์เคยพิสูจน์ผลงานมาแล้ว โดยเฉพาะตนเคยเป็นทั้งประธานวิปฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าเป็นอะไรก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อันนี้คือยี่ห้อของพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้คนไทยทั้งประเทศมั่นใจไว้วางใจได้ ไม่ใช่พอเป็นฝ่ายค้านแล้วหมดแรง

นอนรอเมื่อไหร่จะได้เป็นรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์พิสูจน์มาอย่างยาวนาน แต่ถ้าประชาชนให้เสียงมากพอ สามารถรวมเสียงในสภาจัดตั้งรัฐบาล ตนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าเป็นรัฐบาลนโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนจะถูกนำไปปฏิบัติ แต่หากไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่เป็นไร พรรคประชาธิปัตย์ไม่ตายหรอก อยู่ได้ ทำหน้าที่ของเราได้ สามารถให้ประชาชนไว้วางใจได้ขอให้เลือกมาเยอะๆ ไม่ว่าจะทำหน้าที่อะไร จะไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย แต่จะทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง ส่วนในช่วงโค้งสุดท้ายพรรคประชาธิปัตย์จะใช้กลยุทธ์อย่างไรเพื่อให้มีกระแส ส่วนโอกาสที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมแกนนำคนอื่นๆ จะขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกัน นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนเคยตอบไปแล้วว่าไม่จำเป็นต้องมาขึ้นเวทีปราศรัยเดียวกันเสมอไป เพราะการหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์เป็นแบบดาวกระจาย ไม่จำเป็นต้องกระจุกอยู่ที่เดียว เพราะการกระจุกอยู่ที่เดียวอาจจะเป็นจุดอ่อนได้ เพราะการเลือกตั้ง 77 จังหวัด ประชาชนจะรออยู่อาจจะไปไม่ได้ แต่หากเป็นการกระจาย จะเป็นกำไรที่สุดสำหรับประชาชนทั้งประเทศ

นอกจากนี้ สำหรับการปราศรัยใหญ่อีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายวันที่ 12 พฤษภาคม จะจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ระบุพื้นที่แต่อย่างใด แต่จะจัดควบคู่กับหลายจังหวัดที่มีความพร้อม ซึ่งตนจะขึ้นเวทีปราศรัยในกรุงเทพฯ เพื่อสื่อสารแสดงวิสัยทัศน์ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จึงขอให้ติดตามการขึ้นปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะจะไม่สูญเปล่า อย่างเมื่อวานนี้ตนมีการประกาศจุดยืนหลายอย่างไปแล้ว โดยเฉพาะนโยบาย 4 ทำ 3 ไม่ ซึ่งชัดเจนที่สุดในการส่งสัญญาณการสื่อสารของพรรคประชาธิปัตย์ไปยังประชาชนทั้งประเทศ

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image