เพนกวินรับไม่ได้ ทีมนโยบายการศึกษา เพื่อไทย มองเด็กเป็นหุ่นยนต์ เหมือนรบ.ประยุทธ์

เพนกวิน เตือนดังๆ ถึงผู้ใหญ่ พท. รับไม่ได้ทีมนโยบายการศึกษามีทัศนคติยัดเยียด มองเด็กเป็นหุ่นยนต์ เหมือน รบ.ประยุทธ์

จากกรณีที่เพจ “นักเรียนเลว” ได้นำคำให้สัมภาษณ์บางส่วนของ ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษา พรรคเพื่อไทย ผ่านรายการ TalkingThailand ของช่องวอยซ์ทีวี ถึงความเห็นเรื่องการแต่งชุดไปรเวต รวมไปถึงเสรีภาพของทรงผม จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์นั้น

ล่าสุด (24 เม.ย.) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ ‘เพนกวิน’ แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม แนวร่วมม็อบราษฎร ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า

“ไม่เคยมีปัญหากับพรรคเพื่อไทย ชื่นชอบนโยบายหลายอย่างด้วย แต่ความคิดแบบเผด็จการควบคุมเด็กอย่างนี้มันเกินกว่าจะรับได้ ถ้านำไปทำนโยบายก็จะกลายเป็นความพินาศทางการศึกษา ในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ขอเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยหน่อยว่า นโยบายแบบนี้ย่ำแย่เกินกว่าจะรับได้ ขอให้ปรับแก้หรือออกมาพูดอะไรสักหน่อย

Advertisement

“ที่สำคัญ ก่อนจะออกนโยบายการศึกษาใดๆ ควรสอบถามผู้เรียนด้วยว่าต้องการอะไร จะได้ไม่เป็นการยัดเยียด หรือมองเด็กเป็นหุ่นยนต์เหมือนที่รัฐบาลประยุทธ์ทำไม

“ด้วยความเคารพนะครับ เตือนกันฉันกัลยาณมิตร ผมพูดอย่างนี้ตั้งแต่เรียนมัธยม และจะขอพูดต่อไป”

ทั้งนี้ สำหรับเนื้อหาคำให้สัมภาษณ์บางส่วนของ ณหทัย ที่เพจ “นักเรียนเลว” ได้คัดมาลงในเพจ “นักเรียนเลว” นั้น มีเนื้อหาทั้งหมดดังนี้

Advertisement

“คือจริงๆ เนี่ยชีวิตวัยนักเรียนก็มีแค่นี้นะคะ แล้วเราก็พูดกันถึงเรื่องของความเหลื่อมล้ำ ถ้าเราเปิดให้ไปแต่งชุดที่เป็นไปรเวตเนี่ย มันจะไม่สร้างความเหลื่อมล้ำมากกว่านั้นเหรอ เพราะว่าเวลาไปโรงเรียนเนี่ย ก็จะดูแล้วว่าคุณใส่เสื้อยี่ห้ออะไร คุณใส่กางเกง รองเท้าอะไรล่ะ แล้วทรงผมคุณจะเป็นยังไง

ตอนนี้ก็เหมือนอาจจะลอง testing ดูก่อนว่าฟรีสไตล์ทรงผมแหละ แต่อย่าลืมว่าเราเป็นประชาธิปไตยแล้วเรากำลังบอกว่านโยบายเพื่อไทยส่วนใหญ่ก็คือเราต้องการกระจายอำนาจให้คณะกรรมการสถานศึกษาร่วมกับเด็กในการที่จะตัดสินใจในเรื่องหลายๆ เรื่องที่เกี่ยวกับโรงเรียนของตัวเอง

เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นการ Test ว่าถ้าคุณได้สิทธิเสรีภาพในโรงเรียนของคุณเอง (นักเรียน) ตั้งแต่ 20 คน หรือ 2,000 คน ทำงานร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาแค่เรื่องทรงผมเนี่ย คุณต้องตกลงกันให้ได้ก่อน ถ้าเราทำได้ในระดับนั้นนี้ได้ ต่อไประดับที่ใหญ่ขึ้นไปมันอาจจะนำไปสู่การสมานฉันท์และคุยกันได้ง่ายขึ้นในระดับประเทศ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image