ทบ.นำพลทหาร ตั้งโต๊ะแถลง แจงค่ายเสิร์ฟน้ำซุป แค่ขอนำไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 เมษายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก พร้อมด้วย พ.ท.สกล มีสัมฤทธิ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 151 (ร.151 พัน.2) แถลงข่าวชี้แจงกรณีที่มีการนำเสนอภาพอาหารประกอบเลี้ยงของหน่วยงานกองทัพบพ ผบ.ร.151 พัน 2 จ.นราธิวาส ในสังคมออนไลน์ ร่วมกับ พลทหาร ที่เป็นผู้เผยแพร่ข้อความดังกล่าว
พ.ท.สกลกล่าวยืนยันว่า การประกอบเลี้ยงอาหารตามที่ได้เผยแพร่ไป เป็นความเข้าใจผิด กองทัพบกได้ดำเนินการตามระเบียบของกองทัพบกในการประกอบอาหารโดยหักจากเบี้ยเลี้ยงของพลทหาร จำนวน 70 บาท/คน/วัน หรือ 3 มื้อ หรือมื้อละประมาณ 23 บาท โดยมีอาหาร 2 อย่างและข้าว ซึ่งกำลังพลสามารถมารับประทานอาหารได้ที่โรงเลี้ยง ส่วนกำลังพลที่เข้าเวรยามจะมีปิ่นโตให้นำไปรับประทานหลังออกเวรยาม
พ.ท.สกลกล่าวว่า ส่วนน้ำแกงในกล่องพลาสติกสีฟ้านั้น อาหารดังกล่าวเป็นอาหารเพื่อไม่ให้เหลือทิ้ง และไม่ใช่อาหารที่กองพันจัดไว้ให้กำลังพลรับประทาน แต่กลุ่มเพื่อนพลทหารที่โพสต์ข้อความได้ไปขอน้ำซุปจากโรงเลี้ยงเพื่อนำไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ทำให้มีพลทหารที่รอมารับประทานอาหารไม่ทราบ และนำมาสื่อสารบนโลกสังคมออนไลน์ จนเกิดความเข้าใจผิด หลังจากนั้นกองพันได้พูดคุยกับพลทหารดังกล่าวแล้ว
เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการกับพลทหารที่เผยแพร่ข้อความและภาพหลังจากนี้หรือไม่ ผู้บังคับกองพันกล่าวว่า จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณาดำเนินต่อ
ด้าน พล.ต.หญิง ศริจันทร์กล่าวต่อว่า กองทัพบกมีเมนูอาหารที่จัดทำโดยกรมพลาธิการทหารบก ซึ่งมีเมนูอาหารหมุนเวียนกัน และจะต้องมีคุณค่าทางอาหาร คำนึงถึงแคลอรี่ มีปริมาณเพียงพอต่อกำลังพล เป็นไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่น และถูกสุขลักษณะ รวมถึงยังคงมีค่าตอบแทนและเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนตามอัตราที่กำหนด และชั้นปี รวมถึงยังมีเบี้ยเลี้ยงที่หน่วยทหารหักออกมาเป็นค่าอาหารรายวัน ตลอดจนการประจำการที่ชายแดนภาคใต้ก็จะได้รับค่าเสี่ยงภัย เงินเดือน และค่าตอบแทนประมาณ 10,000 บาท และได้ค่าเสี่ยงภัย 12,500 บาท และค่าออกสนามอื่นๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ 15,000 บาท
พล.ต.หญิง ศริจันทร์กล่าวว่า รวมถึงสวัสดิการค่าแต่งกาย ค่ารักษาพยาบาล ประกันชีวิตเพิ่มเติม การศึกษานอกโรงเรียน หรือ กศน. และการฝึกอาชีพจนปลดประจำการ รวมถึงยังมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง ร่วมกับเอกชน เพื่อบรรจุเข้าสู่องค์กรภาคเอกชน เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือรวมไปถึงการสอบบรรจุเป็นกำลังพลของกองทัพ
“กองทัพบกให้ความสำคัญกับพลทหาร ซึ่งถือเป็นกำลังพลสำคัญที่จะสนับสนุนงานของกองทัพได้ทุกมิติ ช่วยขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกมิติ ยืนยันว่าข้อมูลข่าวสารของกองทัพบก กองทัพชี้แจงทุกข้อสงสัยบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง” รองโฆษกกองทัพบกกล่าว