“มานิต”ผู้ว่ากปน.ยืนยันปรับโครงสร้างค่าน้ำประปาต้องไม่กระทบภาคครัวเรือนประชาชน

“มานิต”ผู้ว่ากปน.ยืนยันปรับโครงสร้างค่าน้ำประปาต้องไม่กระทบภาคครัวเรือนประชาชน

นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน กปน. ได้ดำเนินการผลิต จัดส่ง และจำหน่ายน้ำประปาให้กับประชาชนในพื้นที่ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ประมาณ 12 ล้านคน โดยให้ความสำคัญที่จะให้บริการที่ดี และหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้มากที่สุด ซึ่งต้องขอเรียนกับผู้ใช้น้ำว่า ปัจจุบันรายได้ค่าน้ำประปาของ กปน. ไม่ได้มีอัตราการเติบโตเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะ เก็บอัตราค่าน้ำประปาต่ำกว่าต้นทุนปัจจุบัน

ซึ่ง กปน. มีการแบกรับต้นทุนนี้เอง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระต่อประชาชน เช่น ต้นทุนค่าน้ำดิบ ที่กรมชลประทานเรียกเก็บในอัตรา 50 สตางค์ต่อลบ.ม. แต่ กปน.เก็บจากผู้ใช้น้ำเพียง 15 สตางค์ต่อ สบ.ม. ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท รวมถึงต้นทุนค่าพลังงาน ค่าสารเคมีที่ใช้การผลิตทีเพิ่มขึ้น รวมถึงการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบประปา ซึ่งกปน. ใช้เงินรายได้เป็นแหล่งทุนในการพัฒนาระบบงานประปาและการให้บริการที่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาล อีกทั้งยังพยายามบริหารจัดการต้นทุนที่เกิดขึ้น และเมื่อมีกำไรจากการดำเนินงาน กปน. ยังคงต้องนำส่งรายได้ให้รัฐร้อยละ 50

“ และที่สำคัญ กปน. ไม่ได้ขึ้นน้ำประปามาเลยตั้งแต่ปี 2543 รวมเวลาถึง 23 ปีแล้ว ที่ใช้เรียกเก็บจากผู้ใช้น้ำในอัตราคงเดิม ซึ่งการที่ กปน. ต้องมีการปรับโครงสร้างราคาน้ำประปาที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ และครอบคลุมต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการจัดส่งรายได้ให้รัฐร้อยละ 50 ซึ่งจากการคำนวณเบื้องต้น หากไม่มีการประบโครงสร้างราคาน้ำประปา ในปี 2570 กปน.จะไม่มีรายได้จัดส่งให้รัฐได้อีกแล้ว ดังนั้น การปรับโครงสร้างราคาน้ำประปา จึงเป็นจำเป็นในอนาคต และต้องพิจารณาอย่างรอบครอบว่า จะต้องปรับราคาในอัตราเท่าใด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ตรงกับความเป็นจริงที่สุด โดยยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่สิ่งที่ กปน.คำนึงถึงมากที่สุดคือ การปรับโครงสร้างราคาน้ำประปา ต้องส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนประชาชนให้น้อยที่สุด” นายมานิต กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image