นักกิจกรรม-ทนาย แถลงหน้าศาลเยาวชน คาใจ ‘หยก’ วัย 15 ถูกรวบทั้งที่ยื่น ‘ตารางสอบ’ ให้ตร.-ไม่คิดหนี

เมื่อวันที่ 26 เมษายน เวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เขตจตุจักร นักกิจกรรม นำโดย นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ, นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม พร้อมด้วย น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส หรือ ‘ทนายทราย’ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมารวมตัวเพื่อทำกิจกรรมคู่ขนานกับการพิจารณาคดีมาตรา 112 ของ ‘หยก ธนลภย์’ เยาวชนอายุ 15 ปี จากกรณีการแสดงออกในกิจกรรมทางเมืองที่เสาชิงช้า เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2565

นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง นักกิจกรรมกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ กล่าวว่า วันนี้ตนจะไม่เข้าร่วมการพิจารณาในชั้นศาล เนื่องจากเป็นความต้องการของ ‘หยก’ ซึ่งต้องการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรมไทย และตนสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว

“ตั้งแต่หยกถูกจับกุมตัวโดยตำรวจ สน.พระราชวัง จนถูกส่งตัวไปที่ สน.สำราญราษฎร์ หยกถูกข่มขู่ และใช้ความรุนแรงในการเข้าจับกุม ซึ่งตอนนั้นหยกมีอายุเพียง 14 ปี 7 เดือน ทำไมตำรวจถึงเข้าจับกุมตัว ทั้งที่หยกมีความตั้งใจจะไปรายงานตัวตามกำหนดอยู่แล้ว

ขณะอยู่ในสถานพินิจก็ถูกละเมิดสิทธิด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นห้อง ถูกจำกัดสิทธิในการนำยาเข้าไปรักษา ตั้งแต่ยาสามัญประจำบ้าน ไปจนถึงยากันยุง และจากเหตุการณ์ในวันที่หยกถูกตำรวจเข้าจับกุมตัว มีตำรวจเข้าไปถ่ายรูปเยาวชนใน สน. โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีนักจิตวิทยา หรือนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปกำกับดูแล ตำรวจทำผิดกระบวนการหรือไม่ หยกเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ตั้งคำถามกับสังคมและประวัติศาสตร์ถึงสิ่งที่เรียนมาว่าถูกต้องหรือไม่ แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้าย และคุกคามด้วยวิธีการต่างๆ กับเยาวชนที่มีอายุเพียง 15 ปี

Advertisement

อยากให้เฝ้าจับตาดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับหยก ขณะเดียวกันให้ร่วมกันตั้งคำถามถึงกระบวนการที่เกิดขึ้นว่ายุติธรรมหรือไม่กับสิ่งที่หยก และสังคมกำลังเผชิญ ผมอยากให้ติดตามเพราะเป็นเคสที่เกิดขึ้นกับเด็กที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยที่โดนคดีการเมือง และคดี ม.112″ นายโสภณกล่าว

นายโสภณกล่าวว่า อยากฝากให้ทุกคนติดตาม เพราะหยกก็เป็นแค่เยาวชนที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน โดยในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ หลังเลือกตั้ง 2 วัน เป็นวันเปิดเทอมของหยก

“เร็วๆ นี้จะมีการจัดเสวนา เราจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้ปกครอง ผู้ไว้วางใจ ทนาย รวมถึงตัวแทนจากศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่เป็นคนสั่งขังหยกไปที่บ้านปรานี ตัวแทนจากบ้านปรานี ตำรวจทั้ง สน.พระราชวัง และ สน.สำราญราษฎร์ จะเชิญไปที่ผู้กำกับ ผู้รับผิดชอบโดยตรงเลยว่าคุณทำอย่างนี้กับเด็กได้อย่างไร” นายโสภณกล่าว

Advertisement

ด้าน น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส หรือทนายทราย กล่าวว่า เราได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นและตั้งคำถามมากมายประเด็นแรกคือ ทำไมตำรวจขอออกหมายจับ ทั้งที่หยกไม่ได้หลบหนี อีกทั้ง ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์รู้จักบ้านเป็นอย่างดี

“ทำไมถึงไปออกหมายจับทั้งๆ ที่เขาไปเลื่อนแล้ว เพราะติดสอบ และมีตารางสอบไปให้ตำรวจด้วย หลังจากออกหมายจับ เราก็ตั้งคำถามเหมือนกันว่าทำไมถึงออกหมายจับได้ เพราะการออกหมายจับไม่ใช่อำนาจของตำรวจ” น.ส.กุณฑิกากล่าว

น.ส.กุณฑิกากล่าวต่ออีกว่า ประเด็นต่อมาคือสงสัยว่าทำไมถึงจับอย่างรุนแรง ในวิธีพิจารณาความ มีเรื่องของการตรวจสอบการจับ ถ้าจับไม่ชอบ จับไม่ละมุนละม่อม ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเยาวชนก็ต้องปล่อยเขาไป

“เนื่องจากคุณโสภณมาถามทีมทนายว่าให้คำอธิบายทางกฎหมายได้ไหม เพราะเราก็ดูแลเด็กอยู่ในช่วงของข้อกฎหมายทางสถานพินิจ เราก็รู้ว่ามันมีความจำกัดอย่างมาก เกี่ยวกับสิทธิตามอนุสัญญาสิทธิเด็กที่จะมีส่วนร่วมในการรับข้อมูล ในการเข้าถึงสิ่งต่างๆ เราก็ตั้งคำถามเหมือนกันว่า ในอนาคตประเทศไทยที่กำลังจะเลือกตั้ง เราพูดถึงเรื่องอนาคตทุกวัน อยากรู้ว่าหยกเขามีที่อยู่ในอนาคตของประเทศไทยไหม” น.ส.กุณฑิกากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักกิจกรรม เปิดเผยจดหมายของ หยก ธนลภย์ ซึ่งมีใจความตอนหนึ่ง ขอบคุณสื่อมวลชน ที่ให้ความสนใจ

ความดังนี้

‘ถึงแม้หนูจะอยู่ในบ้านปรานี แต่ก็ได้ติดตามข่าวสาร หนูอยากฝากให้ติดตามในเรื่องของการจับของตำรวจภายใต้สิทธิมนุษยชน อยากให้ตำรวจได้คำนึงการจับกุมภายใต้สิทธิมนุษยชน ถึงจะเป็นคนที่ผิดหรือยังไง เขาก็เป็นมนุษย์’

ทั้งนี้ กลุ่มนักกิจกรรม ได้ยืนชูภาพถ่ายขณะหยกถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวจำนวน 4 ภาพอีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image