ฟิล์ม รับถ้ายังหนุ่มคงถูกใจนโยบายเลิกเกณฑ์ทหาร ถามกลับ ‘แล้วใครจะเฝ้าชายแดน?’

ฟิล์ม รับถ้ายังหนุ่มคงถูกใจนโยบายเลิกเกณฑ์ทหาร ถามกลับ ‘แล้วใครจะเฝ้าชายแดน?’

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 เมษายน ที่ห้องประชุมปรีดี พนมยงค์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ “เดลินิวส์” จัดเวทีประชันนโยบายเพื่อคนรุ่นใหม่ “New Voter กับอนาคตที่กำหนดได้”

บรรยากาศเวลา 13.50 น. ผู้บริหารเดลินิวส์ นำโดย นายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด และผู้บริหารมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นำโดย ผศ.ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมกล่าวเปิดงาน

จากนั้นแนะนำผู้สมัครจาก 9 พรรคการเมืองที่มาร่วมประชันนโยบายเพื่อคนรุ่นใหม่ โดยเมื่อ เวลา 14.10 น. เข้าสู่รอบที่ 1 “ตอบคำถามจากการจับสลาก” โดยตัวแทนทั้ง 9 พรรคการเมืองสุ่มจับสลาก เพื่อตอบคำถามที่รวบรวมจากคนรุ่นใหม่ ท่านละ 4 นาที จากนั้นเลือกตัวแทนพรรคการเมืองอื่น ประชันคำตอบจากคำถามเดียวกัน 2 นาที

Advertisement

ในตอนหนึ่งนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามที่ว่า “จะปฏิรูปการศึกษา โรงเรียนตำรวจ โรงเรียนทหารอย่างไร ให้จบมาแล้วเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง”

นายรัฐภูมิมองว่า ระบบการศึกษาของโรงเรียนตำรวจและทหาร แต่เดิมนั้นดีอยู่แล้ว ควรจะสอดแทรกเรื่องของจิตใต้สำนึกที่ดีผ่านการเรียนการสอน หลักสูตร และการฝึกอบรมในด้านต่าง ๆ เพราะการมีจิตใต้สำนึกที่ดี จะไม่ก่อให้เกิดการคอรัปชั่น นอกเหนือจากนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มโทษในกรณีที่ก่อความผิด ไม่ว่าจะเป็นการทำผิดในขณะที่ศึกษา หรือออกมาประกอบวิชาชีพ นายรัฐภูมิระบุว่า โทษต้องหนักกว่าเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดการเอื้ออำนวยระหว่างตำรวจและทหารด้วยกัน ส่งผลให้ผู้กระทำผิดอาจไม่ได้รับโทษ หรือโทษเบา ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญที่ต้องแก้ไข

“โทษต่าง ๆ ต้องแรงมากกว่าเดิม ที่ผ่านมาตำรวจ ทหารทำผิด ก็จะช่วยเหลือกันเอง เพราะเขาจะมองว่าเป็นพวกเดียวกัน มันก็เลยเป็นปัญหาซ้ำซากที่เจอกันอยู่ทุกวันนี้ เวลาเขาทำผิดเขาก็จะอุ้มกันเอง ช่วยกันเอง แต่เวลาสื่อไม่ได้ทำข่าวมันก็จะเงียบไป สิ่งเหล่านี้ที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เริ่ม” นายณัฐภูมิกล่าว

Advertisement

จากนั้นนายรัฐภูมิ จับสลากได้คำถามที่ว่า “การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และใช้ความสมัครใจแทนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไร ถ้าท่านได้เป็นรัฐบาลจะทำหรือไม่ อย่างไร”

นายรัฐภูมิกล่าวว่า หากตนเป็นวัยรุ่นที่ได้ฟังนโยบายนี้คงจะถูกใจ แต่วันนี้ในฐานะนักการเมืองที่อยู่ภายใต้ของพรรคพลังประชารัฐที่ไม่มีนโยบายดังกล่าว และผ่านการหารือในที่ประชุมมาแล้วว่าไม่เห็นชอบ การเกณฑ์ทหารเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน พื้นที่ชายแดนยังคงมีการถูกรุกล้ำ และมีการแทรกแซงเกิดขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่สามารถบอกได้ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องมีการเกณฑ์ทหารอยู นี่คือเรื่องที่ทำไมกองทัพทหารจะต้องมีเยอะ หรือต้องมีเยอะ

นายรัฐภูมิ อธิบายต่อว่าการยกเลิกเกณฑ์ทหารเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมากกว่านั้น ตนไม่ได้มองเพียงแค่สมัครใจหรือไม่สมัครใจ แต่การเกณฑ์ทหารเป็นการสร้างเสริมระเบียบวินัย และความรักชาติให้แก่ประชาชนชาวไทย แต่สามารถเข้ามาแก้ไขกองทัพในบางส่วนได้ ที่ไม่ใช่การยกเลิกเสียทีเดียว ทั้งยังเผยตนภูมิใจที่ครั้งหนึ่งเคยรับใช้ชาติ

นายรัฐภูมิยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าจะเกณฑ์ทหารจำนวนมากไปรบกับใคร กับในยุคที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งจุดนี้ตนอยากอธิบายว่าในบางประเทศที่เจริญแล้ว ขณะนี้ยังเกิดสงครามอยู่ หากไม่มีทหารก็ไร้คนสู้รบ และไร้คนเฝ้าชายแดน

“ทหารก็ยังลงพื้นที่ไปช่วยประชาชนอยู่ ไปทำความดี ในเรื่องปัญหาหรือธรรมชาติต่าง ๆ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ แล้วถ้าเกิดไม่มีทหาร ใครจะไปอยู่ตามชายแดน ใครจะไปดูแลประชาชน บางคนในพรรคแสดงความคิดเห็นไว้อย่างนี้ครับ” นายรัฐภูมิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image