‘สมศักดิ์’ ช่วยหาเสียงพิษณุโลก มั่นใจยึดเก้าอี้จากเด็กเก่าคืนได้ ล้มบ้านใหญ่ได้แน่

‘สมศักดิ์’ จูงมือ ‘พิมพ์พิชชา-จเด็ศ’ หาเสียงพิษณุโลก มั่นใจดึงเก้าอี้จากเด็กเก่าคืนมาได้ เชื่อเป็นผู้แทนที่ดี ไม่ทิ้งประชาชน ชูนโยบายเพื่อไทยส่งเสริมเกษตรกร-เพิ่มพื้นที่ชลประทาน ตั้งโต๊ะฟังความเห็น เปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด หวังลดคดีพิพาท ‘จเด็ศ’ ลั่นลงพื้นที่ 7 เดือน บ้านใหญ่เพื่อไทยสู้บ้านใหญ่ตระกูลดังได้สบาย หลังเห็นแววตาประชาชนอยากเปลี่ยนแปลง

เมื่อวันที่ 27 เมษายน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทยและอดีต ส.ส.หลายสมัย ลงพื้นที่ จ.พิษณุโลก จำนวน 3 จุด คือวัดสามเรือน อ.บางกระทุ่ม ศูนย์ประสานงานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำ อ.วังทอง และศูนย์ประสานงานแผนท้องถิ่นประจำ อ.บางกระทุ่ม

เพื่อปราศรัยช่วย นายจเด็ศ จันทรา ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 3 เบอร์ 2 และ น.ส.พิมพ์พิชชา ชัยศุภกิจเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 4 เบอร์ 5 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนเข้าร่วม 3 เวทีกว่า 8,000 คน

Advertisement

นายสมศักดิ์กล่าวว่า เห็นพี่น้องประชาชนนั่งฟังปราศรัยอากาศร้อนแต่ก็ยังรอคอยให้กำลังใจผู้สมัครของเรา ทำให้รู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก วันนี้ถือว่าพี่น้องชาวพิษณุโลกโชคดีมากที่พรรคเพื่อไทยเน้นนโยบายส่งเสริมเกษตรกร ทั้งเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร และเพิ่มพื้นที่ชลประทาน เนื่องจากชาวพิษณุโลกมีปัญหาเรื่องน้ำ พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้ปีละ 3 เท่าของรัฐบาลที่ผ่านมา ปัญหาของเกษตรกรต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้ราคาสินค้าเกษตรทุกตัวขยับขึ้นเหมือนในสมัยของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ซึ่งวันนี้พี่น้องประชาชนชื่นชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก ขนาดในพื้นที่ภาคใต้ยังชื่นชอบ เนื่องจากเห็นผลงานในอดีตที่อดีตนายกฯทักษิณสามารถทำให้ราคายางพาราสูงขึ้นได้

“ผมได้รับคำสั่งจากพรรคเพื่อไทยมาว่าต้องดูแลนายจเด็ศให้ดี เพราะเป็นคนหนุ่มไฟแรง นิสัยดี เต็มใจเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน ผมมั่นใจว่านายจเด็ศจะเป็นผู้แทนที่ดี ไม่ทิ้งประชาชน และสิ่งที่นายจเด็ศตั้งปณิธานไว้ ก็จะเป็นความจริง เพราะประชาชนจะให้กำลังใจด้วยการลงคะแนนให้ เนื่องจากชื่นชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่จะให้ทุกนโยบายขับเคลื่อนได้ พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันเลือกทั้งคนและพรรค เบอร์ 29 ให้แลนด์สไลด์ เพราะถ้าเป็นรัฐบาลผสมจะทำให้นโยบายไม่ได้ขับเคลื่อนทุกข้อ” นายสมศักดิ์กล่าว

Advertisement

ขณะที่นายจเด็ศกล่าวว่า ในพิษณุโลกมีปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดแบบเข้มข้นและเห็นผลได้จริง เนื่องจากนายสมศักดิ์ได้วางรากฐานในมาตรการใหม่ เน้นยึดอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดไว้แล้ว ดังนั้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน ส่วนกัญชายืนยันว่าเห็นด้วยที่ใช้เพื่อทางการแพทย์ แต่ไม่สนับสนุนให้ใช้สันทนาการ เพราะได้รับเสียงสะท้อนจำนวนมากว่าลูกหลานถือกัญชาเข้าบ้าน พร้อมบอกว่าไม่ผิดกฎหมายแล้ว ทำให้ไม่สามารถห้ามลูกหลานได้เลย ดังนั้น เราต้องช่วยกันเอากัญชาคืนไป แล้วเอาลูกหลานคืนมา

นายจเด็ศกล่าวว่า ผมลงการเมืองครั้งแรก หลายคนถามว่าจะสู้ “บ้านใหญ่” ไหวหรือไม่ ขอตอบว่าตลอด 7 เดือนที่ลงพื้นที่ไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว ได้เห็นแววตาของพี่น้องประชาชนที่อยากเปลี่ยนแปลงแล้ว จึงเชื่อมั่นว่าบ้านใหญ่เพื่อไทยใหญ่ไม่แพ้ใคร เพราะเราเป็นบ้านของประชาชน ซึ่งจะสามารถสู้จนชนะได้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการปราศรัยนายสมศักดิ์ได้ลงพื้นที่ อ.บางกระทุ่ม เพื่อรับฟังปัญหาประตูน้ำชลประทานชำรุดเสียหาย ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก จากนั้นได้เดินทางต่อไปที่  ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง เพื่อรับฟังปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งพี่น้องประชาชนสะท้อนว่าอยากให้ ส.ป.ก.เป็นโฉนด จะได้รับสิทธิจำนวนมาก รวมถึงจะได้ไม่ต้องถูกดำเนินคดีในกรณีเกิดการพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐอีกต่อไป

นายสมศักดิ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด เพราะเราตั้งใจทำให้พี่น้องเกษตรกร เนื่องจากทราบถึงปัญหาเป็นอย่างดี จึงต้องการทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข รวมถึงจะช่วยแก้ปัญหามีคดีพิพาทอีกด้วย จากที่รับฟังเสียงสะท้อนทราบว่าประชาชนมีคดีพิพาทจำนวนมาก เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน ดังนั้น นอกจากพรรคเพื่อไทยจะช่วยให้ ส.ป.ก.เป็นโฉนดแล้ว ยังได้ให้ผู้สมัครของพรรคคอยประสานพาผู้ที่เดือดร้อนจากคดีพิพาทไปยื่นเรื่องกับกองทุนยุติธรรมที่ตนได้ขับเคลื่อนเอาไว้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในการดำเนินคดีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image