รทสช. ลั่นแรง! บ้านเมืองมีกฎหมาย ทุกคนต้องทำตาม ถามกลับ ทุกวันนี้ไม่เป็น ปชต.ตรงไหน
รทสช. ลั่นแรง! บ้านเมืองมีกฎหมาย ทุกคนต้องทำตาม เป็นกบฏหนักกว่าชังชาติ ถามกลับ ทุกวันนี้ไม่เป็น ปชต.ตรงไหน ด่านายกฯไม่ถูกจับเข้าคุก ซัด แทนที่จะให้เงินคนจน แจกเงินให้เศรษฐีหมื่นล้านทำไม คุย ได้บัตรลุงตู่พลัสเดือนละพัน หวังอุ้มกลุ่มเปราะบาง
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 2 พฤษภาคม ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า สยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มติชนxเดลินิวส์ ร่วมจัดดีเบตเป็นครั้งแรกในเวที “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR” โดยยกทัพพรรคการเมืองชั้นนำครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งขุนพลเลือดใหม่ (Young blood) ขุนศึกตัวตึง-ตัวเก๋า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชันนโยบายเพื่อนับถอยหลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
ต่อมา เวลา 13.35 น. เข้าสู่รอบ 2 เวที “ขุนศึก ประจัญบาน” โดยบุคคลสำคัญในแต่ละพรรค ร่วมประชันประเด็นหลักที่พรรคใช้หาเสียง อธิบายเหตุผลในการเลือกใช้กลยุทธ์-นโยบายในช่วงโค้งสุดท้าย พร้อมดีเบตโต้แย้งกับตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ ทั้งในประเด็นการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
โดยคำถามแรก ถามว่า เห็นด้วยหรือไม่กับแนวคิดการไล่คนที่เห็นว่า ‘ชังชาติ’ ออกนอกประเทศ พรรคของท่านมีแนวทางในเรื่องดังกล่าวอย่างไร นายวินท์ สุธีรชัย ผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า คำว่าชังชาติ ใครๆ ก็กล่าวหาได้ แต่ท้ายที่สุดบ้านเรามีขื่อมีแป ประเทศที่ไม่มีขื่อมีแปจะกลายเป็นอนาธิปไตย เกิดความวุ่นวาย ฉะนั้นท้ายที่สุดอยู่ที่กฎหมาย กฎหมายทุกคนต้องทำตาม เช่น ความพยายามที่จะทำลายรัฐ หรือที่เราเรียกกันว่ากบฏ คือการกระทำที่ผิดกฎหมาย โทษของกบฏสูงสุดคือประหารชีวิต หนักกว่าชังชาติ หนักกว่าไล่ออกจากประเทศ ถ้าหากจะเป็นกบฏหรือทำลายชาติ ท้ายที่สุดตามกฎหมายระบุไว้ว่าโทษสูงสุดคือประหารชีวิต บ้านเรามีความพยายามไม่ให้คนไทยฆ่ากันเอง ที่ผ่านมามีความขัดแย้งนองเลือด ดังนั้นทางที่ดีที่เราจะไปต่อคือ การเดินต่อภายใต้กฎหมาย สู่ประชาธิปไตยที่ไม่ทำร้ายกัน
ในตอนหนึ่ง นายวินท์กล่าวต่อว่า ถามว่าตอนนี้เราไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน เราอยากเป็นประชาธิปไตยแบบสิงคโปร์หรือไม่ ที่คนด่านายกฯก็ติดคุก ก็เห็นพี่ๆ น้องๆ ด่านายกฯเยอะแยะกันหมด ขอเรียนเชิญดูว่าคนที่ด่าวันนี้ติดคุกหรือไม่ ทุกวันนี้ถ้าเราไม่มีประชาธิปไตย ทำไมเรามาหาเสียงเลือกตั้งเพื่อวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ถ้าคิดว่าตอนนี้เราไม่ใช่ประชาธิปไตย คุณก็ไปบอกเลยว่า อย่าไปเลือกตั้งกันดีกว่าไหม แต่เป็นเพราะประชาธิปไตย เราถึงได้เลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
คำถามที่สอง รัฐควรให้เงินช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มด้อยโอกาส หรือควรช่วยเหลือแบบถ้วนหน้าและเท่าเทียม นายวินท์กล่าวว่า เวลาพรรคการเมืองทุกพรรคหาเสียง จะใช้คนคนรวยไปช่วยเหลือคนยากลำบาก ทำไมในอดีตถึงเป็นการให้สวัสดิการแบบถ้วนหน้า เพราะในอดีตเราไม่มีเทคโนโลยีที่จะรู้ได้ว่าคนลำบากอยู่ไหน แต่รวมไทยสร้างชาติมีส่วนสร้างฐานข้อมูลนั้น สามารถรู้ว่าครวบครัวใดลำบาก พวกคุณอาจจะไม่รู้ แต่เรารู้ รวมไทยสร้างชาติมีส่วนร่วมในการสร้างระบบออนไลน์ผ่านมือถืออย่าง เป๋าตัง inject เงินไปถึงคนจนโดยไม่ผ่านคนกลาง ขอถามหน่อยว่า ลูกเศรษฐี หรือเศรษฐีรวยหมื่นล้าน ไปให้เขาทำไม เขาไม่ลำบาก แทนที่จะให้คนเหล่านั้น ไปให้คนจนไม่ดีกว่าหรือ แจก 10,000 บาท ได้ครั้งเดียว แต่แจกผ่านลุงตู่พลัสได้เดือนละ 1,000 บาท 4 ปี ได้ 48,000 บาท คนจนหายลำบากไหม ดังนั้น ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ดีที่สุด
ในตอนหนึ่ง นายวินท์กล่าวต่อว่า ต้องเรียนว่ารวมไทยสร้างชาติไม่ได้มาเพื่อเป็นนั่งร้านให้ใคร ตนเข้ามาพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะสมัครเข้าพรรค พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นการรวมคนหลายกลุ่มที่มีประสบการณ์และความสามารถ ทั้งรุ่นเก่า รุ่นกลาง รุ่นใหม่ เพื่อที่จะผลักดันประเทศต่อไป เรื่องที่บอกว่ามาผลักดันเผด็จการต่อ ไม่เป็นความจริง ทุกวันนี้มีแต่รวมพลังเพื่อขับประเทศไปข้างหน้า แนวทางของรวมไทยสร้างชาติคือการนำเงินต่างชาติมาให้คนไทย
คำถามที่สาม การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นโดยการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด พรรคของท่านเห็นด้วยหรือไม่ นายวินท์กล่าวว่า สิ่งที่ทำแล้ว รัฐบาลที่ผ่านมาได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) รัฐบาลที่ผ่านมาสนับสนุนเครือข่ายประชาชนอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่ทำอยู่ ในเรื่องของผู้ว่าราชการจังหวัด จังหวัดไหน หรือประชาชนมีศักยภาพ เราต้องสนับสนุน เช่น ภูเก็ต เขาเป็นคนมาเรียกร้องขอแซนด์บ็อกซ์เองในช่วงที่เกิดโควิด ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนในเรื่องนี้ ภูเก็ตได้เปิดรับนักท่องเที่ยวมา สิ่งที่เราต้องคำนึง หากเราเปิดให้เลือกตั้งผู้ว่าฯทั้งประเทศพร้อมกัน บางจังหวัดที่ไม่พร้อมจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนการเอาไฟให้เด็กสามขวบ จุดที่ไม่พร้อม สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ เด็กสามขวบจะเผาบ้านทิ้งเพราะเขาใช้ไฟไม่เป็น ดังนั้นในการที่จะเปิดการเลือกตั้งผู้ว่าฯในแต่ละจังหวัด มันต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่เปิดพร้อมกันทั้งประเทศ หากเปิดทั้งประเทศ พูดเลยว่าประเทศไทยจะถูกซื้อด้วยเงินทุนสีเทา จะเกิดการเอาเงินค้ายาเสพติด เงินของบ่อนการพนันทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มาซื้อเสียงประชาชน สุดท้ายประเทศเราจะเป็นมาเฟีย สเตท ซึ่งเจ้าของก็คือทุนสีดำ
ในตอนหนึ่ง นายวินท์แย้งกลับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยว่า เวลาเพื่อไทยบอกว่า นายทุนพลังงานคุมกระทรวงพลังงาน ระวังไว้ว่านโยบายที่ผลักดันให้เอกชนขายพลังงานไฟฟ้าให้ประเทศ เริ่มมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 ถึงทุกวันนี้ พูดไปก็กระทบพรรคการเมืองหลายพรรค เมื่อถามว่าทุนจีนสีเทาประชาชนรู้หรือไม่ว่ามีหรือไม่มี ตนไปภาคใต้ 6 จังหวัดมา มีนักการเมืองรับทุนจีนสีเทา และนำมาใช้หาเสียง ซื้อเสียงประชาชน เห็นกับตา ดังนั้น ประชาชนรู้ว่าใครกำลังทำแบบนี้ แล้วประชาชนจะลงโทษคนเหล่านั้นเอง
“พูดไปก็กระทบหลายพรรคการเมืองอยู่”
วินท์ สุธีรชัย
ทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ
ยืนยันว่า ทุนจีนสีเทา มีจริง และนักการเมืองบางพรรคมีเอี่ยว เห็นมากับตา#สงคราม9พรรค #มติชนสงคราม9พรรค
จัดดีเบตโดย มติชนxเดลินิวส์ pic.twitter.com/GVBYDoIHt8— Matichon Online (@MatichonOnline) May 2, 2023
