ธนาธร เงื้อดาบ หวังฟันฉับ ปม ‘แป้ง’ เจอชัยวุฒิ ตั้งโล่รับ ก่อนชวนก้าวไกลร่วมเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า สยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มติชนxเดลินิวส์ ร่วมจัดดีเบตเป็นครั้งแรกในเวที “สงคราม 9 พรรค THE LAST WAR”

โดยเวที “ขุนศึก ประจัญบาน” ซึ่งบุคคลสำคัญในแต่ละพรรค ร่วมประชัน โดยตอนหนึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ตอบคำถามถึงประเด็นการแก้ปัญหายาเสพติดว่า พรรคก้าวไกลเสนอมาตลอดว่าจะพาประเทศไทยไปข้างหน้าได้ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ แก้ปัญหาที่ระดับโครงสร้าง การแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่สามารถแก้ได้ด้วยการจับผู้ค้าปลีก หรือผู้เสพเข้าคุก สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือการปฏิรูปตำรวจ เพราะวันนี้ประชาชนเห็นกันทั้งตำบล รู้กันทั้งอำเภอว่า มียาเสพติด แต่ทำไมถึงไม่มีตำรวจไปจับยาเสพติด เหตุผลง่ายๆ เพราะตำรวจที่ไปรับใช้ประชาชน ที่ไปจับโจรจับผู้ร้าย จับยาเสพติดไม่ได้ดิบได้ดี แต่ตำรวจที่ได้ดีคือตำรวจที่รับใช้นาย การจะเป็นผู้บริหาร เป็นผู้กำกับได้ ไม่ใช่ทำดีแต่คือการไปตั้งด่านขูดรีดประชาชน แล้วส่งต่อเงินเป็นทอดๆ แล้วไปซื้อตั๋ว

“พรรคก้าวไกลยืนยันอีกครั้งว่าพวกเราพร้อมยืนหยัดต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนพร้อมเป็นปากเป็นเสียงให้กับทุกท่าน ในเรื่องยากๆ แบบนี้พรรคอื่นพูดอะไรไม่รู้ แต่เราทำมาแล้ว เราอภิปรายปกป้องศักดิ์ศรีของตำรวจอย่างพล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ ที่ทำเรื่องค้ามนุษย์ ต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลแต่กลับต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ เราอภิปราบยาเสพติดในสภา ยังจำเรื่องการจับแป้งได้หรือไม่ ผมถามคนในที่นี้ว่าท่านเชื่อว่านั่นคือแป้งจริงๆ หรือไม่ ซึ่งหลายคนไม่เชื่อว่านั่นคือแป้ง เพราะถ้าเชื่อว่ามันคือแป้งแล้ว จะแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างไร” นายธนาธร กล่าว

นอกจากนี้ นายธนาธร ยังกล่าวกับผู้ฟังว่า

Advertisement

“ยกมือให้ผมดูหน่อยครับ มีใครเชื่อว่าเป็นแป้งจริงๆ ถ้าเชื่อว่ามันคือแป้ง จะแก้ปัญหายาเสพติดได้อย่างไร”

ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบว่า เรื่องมันก็จบไปแล้ว ไม่เกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคต เรื่องแป้ง ตนไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง อาจจะตอบแทนไม่ได้ วันข้างหน้าถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ก้าวไกลอาจเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพลังประชารัฐก็ได้

จากนั้น นายชัยวุฒิ กล่าวถึงข้อเสนอการจัดการปัญหายาเสพติดแบบเห็นผลเป็นรูปธรรม ว่า
พรรคพปชร.เสนอนโยบายอยากให้มีการเพิ่มมาตรการและความเข้มข้น เฝ้าระวังและแก้ปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด ทั้งแนวชายแดนและในประเทศ ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ และทหาร เห็นด้วยกับการปฏิรูปตำรวจ เพราะตำรวจต้องมีการปรับปรุงการทำงาน ทุกคนเห็นด้วย เพราะสังคมทุกวงการมีทั้งคนดีและไม่ดี คงไม่สามารถทำให้ตำรวจทุกคนเป็นคนดีได้ ซึ่งเราต้องมาช่วยกันดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องใหญ่ที่หลายคนมองข้ามไป หรือทำได้ไม่เต็มที่คือการบำบัดรักษา เพราะจากสถิติปีที่ผ่านมา มีประมาณ 114,000 ราย ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับคดีจับกุม ซึ่งมีกว่า 337,000 คดี เราจึงมีนโยบายที่เพิ่มศูนย์บำบัดให้มีทุกอำเภอ และนำพี่น้องประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนมีส่วนร่วมเฝ้าระวังเรื่องการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดที่อยู่ร่วมกับประชาชน และสิ่งสำคัญคือการเฝ้าระวังและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน ด้วยการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมหลักสูตรต่างๆ ให้ชุมชนมีส่วนร่วมป้องกันยาเสพติด

Advertisement

“พปชร.ยืนยันว่าพรรคมีนโยบายที่จะต้องเอาจริงเอาจังปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด และบำบัดผู้ติดยาเสพติด และต้องทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดผ่านกระบวนการปฏิรูป ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องช่วยกันทำงาน” นายชัยวุฒิกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image