⦁…วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. ยืนเด่นรออยู่ไม่ไกล อีกแค่ 10-11 วัน “ประชาชนคนไทย 52.2 ล้านคน” อายุ 18 ปีขึ้นไป เป็นชาย 25.1 ล้าน และหญิง 27.1 จะต้องออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง “ครั้งประวัติศาสตร์”
⦁…ที่เป็น “ครั้งประวัติศาสตร์” เพราะเป็นการเลือกตั้งที่เป็นการต่อสู้ของ “2 ขั้วความคิด” ระหว่างความคิดดั้งเดิม ที่เชื่อว่าบ้านเมืองของเรา “ดี” อยู่แล้ว กับกลุ่มที่เห็นว่า ประเทศไทยจะต้อง “ก้าวต่อไป” ด้วย “อัตราความเร็ว” ที่เทียบเคียงกับประเทศอื่นๆ ได้ และ “ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค.” จะระบุถึง “ทิศทาง” ที่คนไทยต้องการจะไปให้ถึง
⦁…เราได้เห็น “ภาพสะท้อน” ในโพลต่างๆ จากหลายสำนัก รวมถึงจาก “มติชน X เดลินิวส์” ที่เพิ่งประกาศผลไปเมื่อ 23-24 เม.ย.ที่ผ่านมา ท็อปโฟร์ของ “บุคคล” ที่ได้คะแนนสูงสุด คือ “พิธา–ก้าวไกล”, “อิ๊ง–คุณแม่น้องธาษิณ–เพื่อไทย”, “เศรษฐา–เพื่อไทย” และ “ลุงตู่–รวมไทยสร้างชาติ” โดยมี “บิ๊กป้อม–พปชร.” ตามมาห่างๆ
⦁…“นัยยะ” สำคัญ อยู่ที่คะแนนของ “กลุ่มพิธา–อิ๊ง–เศรษฐา” ที่รวมกันแล้วนำโด่งเกิน 50% ของคนที่เข้ามาโหวตกับ “มติชน X เดลินิวส์” ซึ่งว่าไปแล้ว เป็นแนวคะแนนของ “โพลทั่วไป” ปัญหาคือ กลุ่มที่ได้ความนิยม “น้อยกว่า” แต่ “กุมอำนาจ” อยู่ จะยอมรับหรือไม่ หรือจะ “แก้เกม” นี้อย่างไร
⦁…การ “แก้เกม” ที่คะแนนทิ้งกันพอสมควร เป็น “เรื่องยาก” สำหรับเวลาแค่ 10 วัน หรือแม้แต่ 1 เดือน ครึ่งเดือน ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นข่าว “กลุ่มทูตประเทศอียู 10 ประเทศ” ถาม “เสี่ยหนู อนุทิน” เมื่อวันยกคณะไปพูดคุยว่า จะมีการ “ยุบพรรค” หรือไม่
⦁…ก็ต้องหวังว่า “ผู้กุมอำนาจ” ไม่ว่าจะยืนเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง จะมีน้ำใจนักกีฬาและเป็นประชาธิปไตย พอที่จะให้บ้านเมือง “ขับเคลื่อน” ไปด้วย “กฎกติกา” ที่ถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่ขับเคลื่อนด้วย “ความคิด–ความเห็น” ของคนกลุ่มเล็กๆ ที่เชื่อว่าตนเองรู้เรื่องและหวังดีกับประเทศนี้ ยิ่งกว่าใครๆ ซึ่งพิสูจน์มาจาก “รัฐประหาร” 22 พ.ค.57 แล้วว่า “คิดผิดและพลาด” จังเบอร์ขนาดไหน??!
⦁…มองไปถึงวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. เมื่อรู้ผลเลือกตั้งในคืนวันนั้น การ “จับขั้ว” ที่ซุ่มๆ มาพักใหญ่ จะ “ชัดเจน” มากขึ้น เก้าอี้แรกๆ ที่จะต้องแย่งชิงกัน คือ “ประธานสภาผู้แทนฯ” หากพรรคชนะเลือกตั้ง ลำดับ 1-2 ได้เก้าอี้ “ประธานสภา–รองประธานสภา” ก็ถือเป็น “สัญญาณที่ดี” เพราะเป็นไปตามหลักการ และขนบประชาธิปไตย
⦁…เมื่อ “ประธานสภา” มาจากพรรคชนะการเลือกตั้ง ตำแหน่งนายกฯ ก็น่าจะต้องเป็นของ “แคนดิเดต” จากพรรคลำดับที่ 1 หากการเมืองไทยเดินไปในแนวทางนี้ ก็เป็นเรื่องที่พอจะ “ถอนหายใจโล่งอก” กันได้ แต่ถ้าเกิด “พลิกผัน” ไปจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ “ประธานสภา” ต่อไปถึงเรื่อง “นายกฯ” ก็เป็นเรื่องที่จะต้อง “เงี่ยหู” ฟังกันต่อไปว่า จะมีอะไรติดตามมาอีก
กาแฟป่า
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่