พระเนติวิทย์ ลาสิกขา พร้อมสู้เรื่องเกณฑ์ทหาร ชี้ระบบเกณฑ์เหมือน ‘วินัย’ สร้างให้คนกลัว

พระเนติวิทย์ ลาสิกขาแล้ว พร้อมสู้คดีไม่ไปเกณฑ์ทหาร ชี้ระบบเกณฑ์เหมือน ‘วินัย’ สร้างให้คนกลัว

จากกรณีที่ พระเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล หรือ พระจรณสมปนโน ระบุไม่ขอตอบว่าวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน จะเดินทางไปจับใบดำใบแดงตามหมายเรียกหรือไม่ แต่มีเซอร์ไพรส์แน่นอน ต่อมา สำนักพิมพ์สำนักนิสิตสามย่านเผยแพร่แถลงการณ์ลายมือของพระเนติวิทย์ยืนยันตามเจตนารมณ์ที่เคยประกาศไว้เมื่อ 9 ปีก่อนว่าจะไม่เข้าร่วมกระบวนการเกณฑ์ทหาร และขอโอกาสศึกษาในพระธรรมวินัยใช้ชีวิตสมณเพศถึงสิ้นเดือน (เมษายน) นี้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พระเนติวิทย์ระบุว่า ได้ลาสิกขาแล้ว พร้อมกันนี้ยังสอบบาลีได้ประโยค 1-2

พระเนติวิทย์เปิดเผยว่า ดังที่ผมได้เคยแจ้งขณะเป็นพระเนติวิทย์ในถ้อยแถลงส่วนตัวว่า นับแต่รัฐประหาร 2557 ผมก็ตาสว่างเห็นการบังคับเกณฑ์ทหารเป็นเครื่องมือควบคุมคน สร้างความกลัว และระบบนี้เป็นอุปสรรคต่อความเจริญงอกงามของผู้คนในสังคมและสร้างเสรีประชาธิปไตย แม้โดยส่วนตัวจะมีวิธีหลีกเลี่ยงได้มากมายโดยไม่ผิดกฎหมาย (เช่น เรียน รด.) แต่ก็คิดว่าวิธีนี้คนใช้เยอะแล้ว

Advertisement

และเราก็ควรมีสิทธิศักดิ์ศรีชัดในฐานะมนุษย์ว่าเรามีเสรีภาพในการเลือกพัฒนาชาติในแบบของเราได้ เราไม่ควรต้องกลัวกับระบบไม่เป็นธรรม ผมก็ได้มีเจตนามุ่งมั่นและออกแถลงการณ์ตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งก็ผ่านมาถึง 9 ปีแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมระบบเกณฑ์ทหาร แม้จะต้องโดนดำเนินคดีหรืออะไรก็ตามที

แม้ตอนนี้ ผมก็ไม่เคยเปลี่ยนความเชื่อ ความตั้งใจของตน โดยเฉพาะสิ่งที่เราทำเราต่อต้าน เมื่อพิจารณาอย่างแยบคาย เป็นสิ่งที่ดีกับคนรุ่นหลังจากเรา ที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างปราศจากความกลัว สามารถรักชาติได้ดีขึ้น (เพราะเขามีสิทธิคิด สิทธิเลือก ไม่ใช่รักเพราะกลัวเกรง)

หากที่ผมไม่ไปที่หน่วยตรวจเลือกเกณฑ์ทหารเพื่อประกาศเจตนารมณ์นี้ด้วยตัวเองก็เพราะติดอ่านสอบบาลีประโยค 1-2 ซึ่งตนก็ตั้งใจศึกษาบาลีมาถึง 4-5 เดือน อยากสอบซ่อมให้เรียบร้อยแล้วก็จะสึกออกมาต่อสู้ ไม่ได้ต้องการหลีกเลี่ยงจะใช้ผ้าเหลืองเพื่อหลบหนี แม้อยากจะบวชต่ออีกสักพักก็ตาม

Advertisement

ขณะนี้ก็สอบซ่อมเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้ทำผิดที่เคยให้สัตย์ไว้ ก็ได้ลาสิกขาจากวัดญาณเวศกวันช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา และเมื่อวานแม่กองบาลีก็ประกาศผลแล้วว่าพระเนติวิทย์สอบได้ประโยค 1-2

ท่านเจ้าคุณได้ให้โอวาทตอนลาสิกขา คือ หลักอธิษฐานธรรม 4

1.ไม่พึงประมาทปัญญา
2.พึงมั่นคงและมุ่งมั่นในสัจจะ
3.พึงเพิ่มพูนจาคะการให้
4.พึงศึกษาสันติ สันติภาพภายในและโลกไร้สงคราม

ตอนนี้ก็กลับมาเป็นคฤหัสถ์ เป็นผู้ครองเรือน เป็นผู้หนึ่งที่มั่นใจยิ่งขึ้นทุกทีว่าพระธรรมคำสอนสองพันกว่าปีนี้สามารถมีประโยชน์ต่อตนและผู้อื่น และประโยชน์ในการพัฒนาสังคม ได้สัมผัสสุขอิงอามิสและไม่อิงอามิสความไม่เบียดเบียน จะนำเอาธรรมมาประยุกต์และเผยแพร่

เรื่องเกณฑ์ทหารนี้ไม่ได้ขัดกับที่ได้ศึกษา พุทธศาสนามีสองส่วนคือ ธรรม และ วินัย วินัยคือตัวระบบให้บรรลุจุดหมายคือธรรม ถ้าวินัยไม่ทำให้เกิดธรรม วินัยนั้นก็ใช้ไม่ได้

ระบบบังคับเกณฑ์ทหารเหมือนเป็นวินัย แต่ไม่ทำให้บรรลุความงอกงามของบุคคลและสังคม แต่ระบบนี้กลับสร้างความขยาด กลัว มีคนถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจนเสียชีวิต สิ้นเปลืองงบประมาณเกินจำเป็น

วินัยนี้จึงไม่อยู่บนฐานธรรม เจตนาตอนแรกอาจจะดี แต่ไม่ได้ผล ก็ต้องปรับให้สอดคล้องกับธรรม ก็คือมีระบบสมัครใจ ให้สวัสดิการดีขึ้น กองทัพเองก็ได้ประโยชน์ และผู้คนก็ไม่ต้องสูญเสียงานที่ตนรักไปแต่ช่วยประเทศชาติสังคมในแนวทางตน แต่คนใฝ่อำนาจนิยมและคนรับสินบาทคาดสินบนจากระบบนี้จำนวนน้อยอาจจะเสียประโยชน์

ก็เรียนให้ทราบในเบื้องต้นเท่านี้ แจ้งความเป็นไปของตนและความมุ่งมั่นไม่คลอนแคลน ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเกื้อกูลกันมาโดยตลอด

ขอบุญกุศลที่ได้จากการอุปสมบท 10 เดือน เป็นพลวปัจจัยให้ทุกท่านเจริญรุ่งเรือง มีเมตตาต่อกัน เกื้อกูลสังคมของเราให้ปราศจากการเบียดเบียนและงอกงามยิ่งๆ ขึ้นไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image