หนองบัวลำภูแห่ฟัง ‘เพื่อชาติ’ สุดคึก ‘จารุพล’ อ้อนขอผู้สมัครเข้าสภา แก้ปากท้องคนอีสาน

เพื่อชาติปราศรัยหนองบัวลำภูสุดคึก ชาวบ้านแห่ฟัง 5,000 คน แคนดิเดตนายกฯ ขอโอกาสผู้สมัครเข้าสู่สภาเพื่อผลักดันนโยบายแก้ปัญหาปากท้องประชาชน

เวลา 9.30 วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อชาติ นำโดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ดร. ยงยุทธ ติยะไพรัช ในฐานะวิทยากรพิเศษพรรคเพื่อชาติ ร.ต.อ. ดร. นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ ร.อ. ดร. จารุพล เรืองสุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อชาติ พล.ต.ต. ดร. ชยุต มารยาทตร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.จังหวัดหนองบัวลำภู คือ ส.จ. ธีระธนา ด่านพงษ์ ซึ่งเป็นผู้สมัครเบอร์ 1 เขต 2 จังหวัดหนองบัวลำภูของพรรคเพื่อชาติ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อตั้งเวทีปราศรัยที่อำเภอโนนสังจ.หนองบัวลำภู เพื่อชี้แจงนโยบายของพรรคเพื่อชาติให้กับพี่น้องประชาชนในจังหวัดหนองบัวลำภูได้รับทราบซึ่งก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน

นายยงยุทธ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า พลเอกประยุทธ์ ตอนที่เข้ามายึดอำนาจบอกจะแก้ปัญหาให้พี่น้องโดยเฉพาะปัญหาความแตกแยก จะเข้ามาแก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องสถาบัน วันนี้เวลาผ่านไป 8 ปีเงินในกระเป๋าประชาชนก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น นอกจากเงินในกระเป๋าประชาชนไม่ได้เพิ่มแล้ววันนี้ค่าไฟฟ้าที่คนไทยต้องแบบรับภาระจ่ายทุกเดือนซึ่งปรับตัวสูงขึ้นทุกวันหากเทียบกับที่ประเทศเวียดนามวันนี้ค่าไฟฟ้าที่ประเทศเวียดนามราคาอยู่ที่ยูนิตละ 2 บาทกว่าเช่นเดียวกับที่ประเทศลาวค่าไฟฟ้าที่ใช้น้ำขึ้นไปปั่นมาเป็นไฟฟ้าราคายูนิตละ 1 บาทกว่าๆ แต่เมื่อมองมาที่ค่าไฟฟ้าของประเทศไทยในยุคของพลเอกประยุทธ์ราคาอยู่ที่ 5.80 บาท แต่วันนี้มีการปรับลดราคาค่าไฟฟ้าลงลดลงเหลือ 5.30 บาท เพราะอยู่ในช่วงการเลือกตั้งแล้วยังบอกด้วยว่าจากนี้ไปถ้าราคาแก๊สปรับตัวลดลงก็จะลดราคาค่าไฟลงเหลือ 4.70 บาท แต่วันนี้ต้องบอกว่าการประกาศลดที่บอกมานั้นเป็นการลดทิพย์

“การลดทิพย์ก็คือการลดไม่จริงขนาดยังอยู่ในช่วงการเลือกตั้งยังพูดไม่จริงแล้วคิดว่าถ้าผ่านช่วงเลือกตั้งไปแล้วจะมีการปรับลดจริงหรือเปล่าแน่นอนไม่มีการลดจริงแน่ๆเพราะก็จะมีคำอ้างต่อว่าพ้นช่วงเลือกตั้งแล้วเราก็ต้องมาบริหารประเทศต่อถ้าหากมีการปรับลดอีกก็จะทำให้เจ้าสัวหรือนายทุนขาดทุนเพราะเขารักเจ้าสัวรักนายทุนมากกว่าประชาชนคนยากจน ปัจจุบันไฟฟ้าที่คนไทยใช้ทั้งประเทศ 30,000 เมกะวัตต์แต่วันนี้มีคนไปกระซิบ พลเอกประยุทธ์ ว่าให้ผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มจึงมีการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 50,000 เมกะวัตต์ แต่คนไทยไม่รู้ว่า 20,000 เมกะวัตต์ที่เพิ่มมาคนไทยไม่ได้ใช้แต่ถูกนำมาคิดเป็นต้นทุนด้วยแล้วก็โดนภาระค่าใช้จ่ายนั้นมาให้พี่น้องประชาชนทั้งที่พี่น้องประชาชนไม่ได้ใช้เพราะฉะนั้นวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ก็คิดให้ดีว่าสิ่งที่คนพวกนี้ทำไม่ถูกต้องแล้วยังจะไปลงคะแนนเลือกพวกเขาอีกหรือเปล่า” นายยงยุทธกล่าว

Advertisement

ด้าน ร.อ.ดร.จารุพล กล่าวว่า ด้วยความที่ส่วนตัวเป็นคนที่เติบโตและเป็นลูกอีสานจึงเข้าใจดีว่าคนที่เข้าใจคำว่าเหลื่อมล้ำมากที่สุดคือคนอีสาน เพราะเราถูกรังแกมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่บอกว่าภาคอีสานแห้งแล้งความจริงไม่ใช่เช่นนั้น

“เราไม่ได้แห้งแล้งแต่ว่าเราบริหารจัดการน้ำไม่ได้รัฐบาลที่ผ่านมาก็ไม่เคยลงทุน ไม่เคยสนใจที่จะบริหารจัดการเรื่องน้ำแบบจริงจัง แล้วก็ที่ผ่านมาบ้านเมืองเป็นแบบนี้พรรคเพื่อชาติจะบอกว่าเรามีนโยบายปฏิวัติเขียวที่จะช่วยทำให้ชีวิตพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแกนนำหลักที่นำประเทศหาเงินรายได้เข้าสู่ประเทศซึ่งนโยบายเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อพวกเราพรรคเพื่อชาติได้เข้าไปอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรเพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องก็ต้องเข้าไปเลือกบัตรสีม่วงเบอร์ 1 และเลือกบัตรสีเขียวเบอร์ 24 เพื่อให้สมาชิกของพรรคเพื่อชาติได้เข้าไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนเพื่อที่จะได้ผลักดันนโยบายเพื่อจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น” ร.อ.ดร.จารุพล กล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image