เลขาครป.ไม่สบายใจคำพูด ‘วิษณุ’ ปม รัฐบาลเสียงข้างน้อย ชี้ล้มล้างเจตนารมณ์ประชาชน

เลขาฯครป.ค้านวิษณุ เครืองาม ปมรัฐบาลเสียงข้างน้อย ชี้พรรคการเมืองอันดับหนึ่งต้องมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อนตามหลักการประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงประเด็นที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า ส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจ (อ่านข่าว ‘วิษณุ’ ชี้ โพลมีส่วนทำกระแสเปลี่ยน ระบุ ที่ผ่านมาไม่มีใครจับขั้ว ก่อนเห็นตัวเลขผลเลือกตั้ง)

นายเมธากล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม เพราะหากพรรคเสียงข้างน้อยรวมกันจัดตั้งรัฐบาลโดยให้เสียง ส.ว.สนับสนุน ผิดหลักการประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา โดยหวังว่าหลังจากนั้นค่อยหาเสียงเพิ่ม หรือรอยุบพรรคการเมืองอื่นตามยุทธศาสตร์เลือกตั้ง 62 เป็นการเมืองแบบเก่าที่สร้างความขัดแย้งในระบอบประชาธิปไตย

“พรรคการเมืองที่ได้ชนะเลือกตั้ง ได้เสียง ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 ต้องเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงของประชาชน ไม่ใช่พรรคเสียงข้างน้อยกดดันพรรคอื่นโดยใช้เสียง ส.ว. หากพรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถหาเสียงเกินครึ่งนึงของสภาผู้แทนราษฎรได้ ถึงจะเป็นสิทธิของพรรคอันดับ 2 ในการจัดตั้งรัฐบาลถ้าหากรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งได้” นายเมธากล่าว

Advertisement

นายเมธากล่าวต่อไปว่า การที่นายวิษณุคิดว่าถ้าหนีไม่พ้น จำเป็นต้องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเอง ทำให้เห็นยุทธศาสตร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนนี้ก็คือ ต้องการรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลเดิมซึ่งคาดว่าจะได้ประมาณ 200 เสียง แต่อยากจัดตั้งรัฐบาลต่อทั้งที่เสียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง โดยใช้เกมอำนาจการเมืองล็อบบี้ผ่านเสียง ส.ว. เพราะหลังเลือกตั้งจะมีการเลือกประธานสภาก่อนแล้วจึงค่อยเลือกนายกรัฐมนตรี โดยใช้เสียง ส.ว.หนุน หลังจากนั้นจึงดึงพรรคการเมืองต่างๆ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล

“ถ้าเป็นไปตามนี้เท่ากับเป็นการล้มล้างเจตนารมณ์ของประชาชน ทำให้การเลือกตั้งเป็นเพียงละครอำนาจ รัฐบาลจะขาดความชอบธรรมในที่สุด และหากมีการยุบพรรคการเมืองหลังการเลือกตั้ง บ้านเมืองจะวุ่นวายอย่างหนักเพราะกลไกประชาธิปไตยถูกทำลายย่อยยับ

ผมอยากเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากให้ได้เกิน 376 เสียง เพื่อไม่เหลือโอกาสให้ตัวแทนกองทัพสืบทอดอำนาจต่อไปโดยใช้เสียง ส.ว. โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมดในปัจจุบันอาจได้ประมาณ 300 เสียง จำเป็นจะต้องเชิญพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง คือพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ก็พรรคประชาธิปัตย์ ลอยแพพรรคทหาร 2 พรรคที่มีผู้นำรัฐประหารเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถึงจะทำให้การเมืองไทยไปต่อได้ ประชาชนรอรัฐบาลใหม่มาแก้ไขเศรษฐกิจที่ผุพัง” นายเมธากล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image