‘ธนาธร’ แย้มโควต้ารัฐมนตรีแล้ว ลั่นได้เป็นรบ. จะทำหลายๆเรื่อง ต่อไปนี้พร้อมกัน

‘ธนาธร’ บุกมหาสารคาม ช่วงผู้สมัครหาเสียงโค้งสุดท้าย แย้มโควต้ารัฐมนตรีแล้ว ลั่นถ้าได้เป็นรบ. จะทำหลายเรื่อง ต่อไปนี้พร้อมๆกัน

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 5 พฤษภาคม ที่สวนสุขภาพ เทศบาลเมืองมหาสารคาม พรรคก้าวไกล นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.มหาสารคาม ทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 นายธีระวัฒน์ พรรณะ เบอร์ 13 ,เขต 2 นายธงชัย เบอร์ไธสงค์ เบอร์ 13 ,เขต 3 นายกุลธร แก้ววิเศษ เบอร์ 13 ,เขต 4 นางภานิณี ขันแก้ว เบอร์ 10 , เขต 5 นายสหะ กันพล เบอร์ 9 และ เขต 6 นางเพียงพิศ เดชมาลา เบอร์ 1 มาเปิดเวทีปราศรัย พบปะพี่น้องประชาชน โดยมีประชาชนทุกเพศทุกวัยเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

ช่วงหนึ่ง นายธนาธร ขึ้นปราศรัยว่า วันนี้บนกระดานการเมือง มีหลายพรรคการเมืองเป็นความสวยงามเพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนเลือก บางพรรคต้องการพาประเทศไทยถอยหลัง บางพรรคไม่ต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยน อยากให้อยู่จุดเดิม ทุกอย่างมันดีและสวยงามแล้ว แต่พรรคก้าวไกลบอกว่า เราแก้ปัญหาการเมืองที่ยากๆไปพร้อมๆกับการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจได้ ไม่ต้องกลัวอนาคต ไม่ต้องกลัวความเปลี่ยนแปลง นี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดต่างหาก

นายธนาธร กล่าวว่า ถ้า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ก้าวไกลจะทำหลายๆเรื่องพร้อมกัน ไม่ต้องทำเลือกทีละเรื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ของเราจะเอาสินค้าเกษตรไปขายในตลาดโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับยุคสมัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะพัฒนาอุตสาหกรรม สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ สร้างเทคโนโลยีใหม่ให้ลูกหลานมีงานที่ดีทำ ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปปฏิรูปกองทัพ เพื่อไม่ให้เกิดการรัฐประหารอีกในอนาคต ทำหลายเรื่องพร้อมกันได้ ไม่ต้องทำทีละเรื่อง นี่คือข้อเสนอที่เราวางอยู่บนโต๊ะในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ ให้ทุกท่านได้เลือกเอง เวลานี้ไม่ใช่เวลาในการหวาดกลัวแล้ว แม้จะโดนบีบให้หวาดกลัวมาตลอดชีวิต โดยเฉพาะ 7-8 ปีหลัง สิทธิและเสรีภาพของประชาชนถูกริดรอนและถูกบดขยี้

“ถามจริงๆเถอะ เวลาท่านเดือดร้อน ถือโทรโข่งไปสี่แยกป่าวประกาศความอับจนในชีวิต ผู้มีอำนาจได้ยินไหม ท่านคนเดียวผู้มีอำนาจไม่ได้ยินหรอก อยากให้ผู้มีอำนาจได้ยินความเดือดร้อน ต้องเดินขบวน แต่ 8 ปีหลังมานี้ ทำไม่ได้ สิทธิเสรีภาพมันถูกลิดรอน ฉะนั้น ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลง นี่ไม่ใช่เวลาของการเจียมเนื้อเจียมตัว แต่เป็นเวลาของการฝันใหญ่ เป็นเวลาของความทะเยอทะยาน เป็นเวลาของการไขว่คว้าโอกาสแห่งยุคสมัย อย่าปล่อยให้โอกาสนี้ ที่จะปฏิรูปเรื่องยากๆหลุดลอยไป แม้เวลาพูดถึงการปฏิรูปเรื่องยากๆ จะถูกหาว่าสุดโต่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราภูมิใจมากก็คือ โพลต่างๆที่ออกมา บอกว่า พิธา ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะข้อเสนอที่ถูกกล่าวหาว่า สุดโต่ง มันได้รับการยอมรับในสังคม และประชาชนพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลง มันไม่ใช่เรื่องสุดโต่งอีกต่อไป” นายธนาธร กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image