พท.เถียงหมอวรงค์สุดเสียง ปม NGO-พรรค ใช้ ‘หยก’ ปั่นกระแสรังแกเด็ก ก่อนโดนโต้กลับ ‘ไปประกันก็จบ’

พท. เถียงหมอวรงค์สุดเสียง ปม NGO – พรรค ใช้ ‘หยก’ เป็นเครื่องมือ ปั่นกระแสรังแกเด็ก ก่อนโดนโต้กลับเดือด ‘ไปประกันก็จบ’

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ลาน One Arena โครงการ Stadium One ซอยจุฬาลงกรณ์ 6 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สืบเนื่อง กกต.จัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2566 กลุ่มนักเรียนเลว จัดเวที “ห้องเรียนรัฐมนตรี Candidate Classroom” ประชันวิสัยทัศน์พรรคการเมือง เกี่ยวกับนโยบายด้านการศึกษาและสิทธิมนุษยชนภายในโรงเรียน

โดยมีตัวแทนจาก 6 พรรคการเมืองเข้าร่วม ได้แก่ น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ หรือครูจุ๊ย ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล, น.ส.ธีราภา ไพโรหกุล คณะทำงานด้านนโยบาย พรรคเพื่อไทย, น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 16 พรรคไทยสร้างไทย, นายวรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี, นายวรนัยน์ วาณิชกะ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนายณภัทร ชวนรำลึก ทีมยุวชน (ด้านเศรษฐกิจ) พรรคชาติไทยพัฒนา

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ช่วงที่ 5 The Debate ศึกประชันวิสัยทัศน์ โดยนายวรงค์ หัวหน้าพรรคไทยภักดี สุ่มได้คู่กับ น.ส.ธีราภา จากพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามที่ว่า “จากกรณีการจับกุม หยก นักกิจกรรมอายุ 15 ปี เป็นปัญหาของกระบวนการยุติธรรมหรือไม่” ทั้งนี้ ผู้ดีเบตใช้วิธีเป่ายิงฉุบ เนื่องจากไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าใครจะตอบคำถามก่อน

Advertisement

นายวรงค์กล่าวว่า ขอเล่าให้ทุกท่านได้รับทราบ เรื่องคดี ม.112 นั้น เป็นคดีที่มีเหตุมีผลในแต่ละสถานการณ์ แต่เราต้องยอมรับว่าตั้งแต่มีกระบวนการล้มล้างการปกครอง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา กระบวนการต่างๆ เหล่านี้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องหยก ผมต้องถามว่าน้องหยกเขาทำอะไร ผมเชื่อว่าสถานการณ์ ณ ตอนนี้ การตรวจสอบมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ใครจะทำอะไรก็แล้วแต่ การตรวจสอบชัดเจน แต่มันมีขบวนการ Propaganda ให้เด็กทำ และผู้ใหญ่มารณรงค์ว่าเด็กถูกรังแก ผมถึงบอกว่าเรื่องของน้องหยกมีหลักฐานยืนยัน และข้อความผมมี แต่ไม่ต้องการเปิดเผย ถ้าอยากจะอ่านก็ให้มาอ่าน แต่ยืนยันว่ามีหลักฐาน เป็นการกล่าวหาในสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เขาจึงต้องถูกดำเนินคดี เพียงแต่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพยายามมารณรงค์ องค์กรต่างประเทศก็พยายามรณรงค์ว่าเด็กถูกรังแก เพราะการเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือ มันเป็นเหยื่ออันโอชะของต่างชาติ ที่มองว่าประทเศไทยใช้กฎหมายไม่ชอบ” นายวรงค์ชี้

Advertisement

นายวรงค์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยใช้กฎหมายถูกต้อง ชอบธรรม เพียงแต่คนกลุ่มหนึ่งหวังผลประโยชน์จากเด็ก ด้วยการเอาเด็กเข้าไปอยู่ในสถานพินิจ

“คำถามถามว่า แล้วทำไมพวกคุณไม่ไปดำเนินการประกันตัว เท่าที่ผมตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก จนป่านนี้ยังไม่มีการดำเนินการประกันตัว เพราะหวังเอาผลที่เด็กอยู่ในสถานพินิจมาปั่นกระแสให้คนเข้าใจผิด แต่ในความเป็นจริง วันนี้เขากำลังหลอกลวงพี่น้องประชาชนว่าเด็กถูกรังแก แต่ความจริงแล้วเด็กทำผิด นี่คุณกำลังละเมิดสิทธิเด็ก เอาเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างนี้ สร้างความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ไทยภักดีจึงยอมไม่ได้โดยเด็ดขาด” นายวรงค์กล่าว

ด้าน น.ส.ธีราภากล่าวว่า ประเด็กแรก ตนไม่เห็นด้วยกับคุณหมอวรงค์อย่างชัดเจน การที่บอกว่าเอาเด็กมาเป็นตัวประกันทางการเมือง คิดว่าไม่ถูกต้องแน่นอน การที่เด็กออกมาแสดงความคิดเห็น นั่นคือเสรีภาพของเขาที่ชัดเจนมากๆ ซึ่งการที่ถูกจับกุมไม่ได้ประกันตัวออกมา ไม่ใช่เรื่องของการที่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งใช้เด็กเป็นเครื่องมือ แต่เกิดจากกระบวนการยุติธรรมที่ซับซ้อน ไม่ยอมให้เด็กที่ถูกจับได้ออกมา จึงไม่เห็นด้วยในประเด็นแรก

ประเด็นที่ 2 เรื่องข้อความที่น้องหยกออกมาเขียน ไม่ว่าจะเขียนอย่างไร นั่นคือเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น

“ที่สำคัญ ไม่ใช่น้องคนเดียวที่ออกมาเขียน ฝั่งตรงข้ามเองก็ออกมาเขียนอะไรที่ด่าทอเด็กเช่นเดียวกัน ฉะนั้น ทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่ถูกจับดำเนินคดีเหมือนกัน ตรงนี้จุดยืนของข้าวเห็นต่าง และเพื่อไทยก็เห็นต่างในจุดนี้เช่นกัน

เราคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุด ณ วันนี้ก็คือ เราหยุดวาทกรรมเถอะ ที่บอกว่าเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เราต้องสนับสนุนสิทธิเสรีภาพของเด็กในการแสดงความเห็นของเขาออกมาให้เต็มที่ และการคิดเห็นนั้นจะต้องไม่ทำให้เขาถูกจับอีกต่อไป” น.ส.ธีราภากล่าว

จากนั้น นพ.วรงค์ใช้สิทธิพาดพิงเพื่อกล่าวโต้แย้งว่า เข้าใจว่า น.ส.ธีราภาอาจจะไม่เข้าใจ ระหว่างการเขียนวิจารณ์ประมุขแห่งรัฐ กับประชาชนทั่วไป

“น้องจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ แสดงว่าแค่นี้น้องก็ไม่เข้าใจแล้ว” นพ.วรงค์กล่าว ท่ามกลางเสียงโห่จากคนในห้อง

นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า การที่จะมาปกป้องคุ้มครองเด็ก ที่ว่าถูกรังแก ถามว่าเด็กเขียนอะไรรู้ไหม

“ยังไม่รู้แล้วมาปกป้อง น้องก็ท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเท่านั้นเอง เราเห็นด้วยว่าทุกคนต้องการสิทธิเสรีภาพแต่ต้องรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ เข้าใจไหม มันมีความตั้งใจไม่ไปประกันตัว ผมพยายามสืบข้อมูลเชิงลึก ไม่ไปประกันตัวเพราะมีความตั้งใจ ถ้าไปประกันตัวเขาปล่อยทันที จบ” นพ.วรงค์กล่าว

จากนั้น น.ส.ธีราภากล่าวโต้แย้งอีกว่า ไม่ใช่ไม่เข้าใจ สิ่งที่ตนเข้าใจคือสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ตามสากล

“ที่บอกว่าองค์กรทางสิทธิมนุษยชนมาใช้เด็กเป็นเครื่องมือ อันนี้ก็ไม่ใช่ สิทธิมนุษยชนก้าวหน้ากว่าเราไปมาก พูดจริงๆ เพราะว่าเรายังคิดอยู่กรอบของเรา ถึงไม่สามารถเข้าได้กับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของสากลได้” น.ส.ธีราภากล่าว

อ่านข่าว : พท.ชวน กก. ‘ปฏิรูปการศึกษา’ – ครูจุ๊ย ลั่น พรรคมีประสบการณ์ ไม่สำคัญเท่า ‘ทำตามสัญญา’

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image