เลขาครป. ผิดหวัง กกต.เลือกตั้งล่วงหน้าไร้ประสิทธิภาพ ระวังซ้ำรอยปี 49 ดูงานหลายประเทศ ไม่เอามาปรับใช้?

เมธา มาสขาว (แฟ้มภาพ)

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงประเด็นการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ประชาชนกำลังรู้สึกผิดหวังกับการทำหน้าที่ของ กกต. ที่ใช้งบมหาศาลเกือบ 6,000 ล้านบาท แต่ไม่มีประสิทธิภาพสมกับงบที่ได้ไป ทั้งๆ ที่ไปดูงานมาหลายประเทศแต่ไม่ได้นำมาปรับใช้เลย ขอให้ กกต. ยอมรับความผิดพลาดและแก้ไขข้อบกพร่องอย่างเต็มที่ และจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค.นี้ อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาความโปร่งใส ยุติธรรม ไว้ให้ได้ อย่าให้เกิดข้อคลางแคลงใจในการปฏิบัติหน้าที่อีก ไม่เช่นนั้น หลังการเลือกตั้งเราอาจเห็น กกต.ติดคุก เหมือนในอดีต ซ้ำรอย พล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ  อดีตประธาน กกต. ที่เคยถูกอดีตไล่ล่าให้ติดคุกมาแล้ว จากการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมายในปี 2549

นายเมธา กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้พรรคการเมืองต่างๆ กำลังเสนอนโยบายในโค้งสุดท้ายกันอย่างคึกคัก เพื่อหาคะแนนเสียงให้ได้มากที่สุดในการเลือกตั้ง หลายพรรคนำเสนอนโยบายประชานิยม และประชาสงเคราะห์ มีน้อยมากที่ไปแตะโครงสร้างระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมที่ไม่มีหัวใจ  หลายนโยบายภายใต้ทุนนิยมเสรีมีแต่ทำให้เจ้าสัวรวยเหมือนเดิม ไม่อยากให้รัฐบาลหน้าบริหารเศรษฐกิจซ้ำรอยรัฐบาลเก่า เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาทำให้เจ้าสัวร่ำรวยเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 แสนล้านบาท การแข่งขันกันแจกเงินเป็นเพียงการผันเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเสรีเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำลายความยากจนของคนไทยลง ประเทศไทยจะไม่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาเลย

ที่สำคัญพรรคการเมืองหาเสียงด้วยลมปาก แต่หลายพรรคไม่เคยรักษาสัญญาที่เคยให้ไว้ ดังที่การเลือกตั้งในปี 62 เป็นตัวอย่าง ดังนั้น ครป. และภาคประชาชน จึงได้จัดเวทีสัญญาประชาคมพรรคการเมืองวันนี้ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองหาเสียงด้วยความรับผิดชอบว่าจะทำอย่างที่พูด

“ผมมี 10 นโยบายที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา ฝากไปถึงทุกพรรคการเมืองช่วยแตะไปที่หัวใจทุนนิยม โครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ควรแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้วยครับ เพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ

Advertisement

1.นำ ปตท. คืนกลับมาเป็นของรัฐ ลดราคาน้ำมันลงสำหรับคนไทยที่ใช้ในประเทศ

2.ยกเลิกสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชน ให้กฟผ. ผลิตไฟฟ้าเอง 100% เองทั้งหมด ควบคุมความมั่นคงพลังงานของชาติ ไม่ให้เอกชนหาประโยชน์ ทรัพยากรสาธารณะและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ต้องให้รัฐเป็นเจ้าของและจัดการเพื่อคนไทย ลดราคาค่าไฟลงสำหรับชาวบ้าน ยกเว้นโรงงานเป็นไปตามอัตราราคาแบบขั้นบันใด

3.ยุบเลิก BOI เปลี่ยนเป็นสำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอีแทนกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ยกเลิกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของกลุ่มทุน ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กแทน ยกเลิกการผูกขาดเหล้าเบียร์ และจำกัดการขยายร้านค้าปลีกของทุนผูกขาด

Advertisement

4.ออกกฎหมายเก็บภาษีทรัพย์สินอัตราก้าวหน้า แก้ไขกฎหมายภาษีมรดกอัตราก้าวหน้าและภาษีที่ดินให้มีอัตราก้าวหน้าตามหลักสากล

5.สร้างระบบรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าจากการเก็บภาษีทรัพย์สินอัตราก้าวหน้า ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสาธารณสุขให้มีมาตรฐานเดียวกัน

6.ปฏิรูปที่ดินและหนี้สินชาวนา ยกเลิกหนี้กองทุนหมู่บ้าน เปลี่ยนนโยบาย ธกส. และสหกรณ์อำเภอ, จังหวัด ให้ลดอัตราดอกเบี้ยและส่งเสริมเกษตรกรไม่ให้เป็นหนี้และจำนองที่ดินจนหลุดไปในมือนายทุน ส่งเสริมโรงสีวิสาหกิจชุมชน

7.เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด และยุบราชการส่วนภูมิภาค ให้นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่และกระจายงบประมาณให้ด้วย

8.ก่อตั้งธนาคารแรงงานสำหรับแรงงานทั่วประเทศ ไม่ให้ตกเป็นทาสสถาบันการเงินที่คิดดอกเบี้ยแพง

9.ปฏิรูประบบข้าราชการ ตำรวจและกองทัพเพื่อรองรับสังคมประชาธิปไตย และรัฐสมัยใหม่ที่ทันสมัย เป็นรัฐของประชาชน ไม่ใช่ระบบรัฐราชการ

10.สร้างความยุติธรรมในระยะเปลี่ยน ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ นิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองและนักโทษทางทางความคิดในประเทศไทย ซึ่งเป็นคดีการเมืองที่ขัดแย้งต่อสิทธิมนุษยชน” นายเมธา กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image