‘อิ๊ง’ แพทองธาร ฝ่าด่าน ลุ้นนายกฯคนที่ 30

‘อิ๊ง’-แพทองธาร ฝ่าด่าน-ลุ้นนายกฯคนที่ 30

ใหญ่สุด ในศึกชิงอำนาจ เลือกตั้งทั่วไป วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้

กูรูการเมืองฟันธง แคนดิเดต ที่ได้ลุ้นสูงสุด มาจาก 4 พรรค 2 ขั้วการเมืองเท่านั้น ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในปีกรัฐบาล

ปัจจุบัน ขณะที่อีกฝั่ง ฝ่ายค้าน ได้แก่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร และเศรษฐา ทวีสิน สองแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ค่ายก้าวไกล

Advertisement

เหล่าบรรดาตัวตึง เหล่านี้ ผู้มีภาษีมากสุด ที่จะยึดเก้าอี้นายกฯ คุมทีมบริหารชาติบ้านเมือง คนต่อไป คือคนหนึ่ง คนใดระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร กับ เศรษฐา ทวีสิน ที่ต่างก็ประกาศความพร้อม ดำรงตำแหน่ง ทั้งคู่

ทั้งนี้ เหตุที่ได้รับการยกเป็นเต็ง 1 เนื่องจากเพื่อไทย ไม่ว่าชื่อใด กวาดเก้าอี้ ส.ส.ได้สูงสุดทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง นับแต่ลงสนามครั้งแรกปี 2544 ในนามไทยรักไทย ในการเลือกตั้งปี 2562 แม้ส่งแค่ 250 เขตเลือกตั้ง หลีกทางให้พรรคไทยรักษาชาติ 100 เขต เพื่อแก้เกม กติกาบอนไซ สกัดพรรคการเมืองขนาดใหญ่ โกยที่นั่ง ส.ส.จำนวนมาก แต่กระนั้น ก็เข้าวิน คว้าเก้าอี้ ส.ส.ได้มากที่สุดถึง 136 เขต

แม้ไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แม้แต่คนเดียว กติกาใหม่ ออกแบบมาคุมการเติบใหญ่ แต่ก็ป้องกันแชมป์สำเร็จ
กล่าวสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป อาทิตย์ที่ 14 พฤษภาฯนี้

Advertisement

เพื่อไทยมั่นใจเป็นที่ยิ่งว่า จะชนะเลือกตั้งอีกครั้ง และกวาด ส.ส.ทั้งระบบเขตเลือกตั้ง และบัญชีรายชื่อ ได้ไม่ต่ำกว่า 250 คน ข้อมูลวงในการประเมิน ไม่กี่วันก่อน

หย่อนบัตร ตัวเลขอยู่ที่ 279 คน ขณะที่ก้าวไกล พันธมิตรร่วมฝ่ายค้าน 40-60 ที่นั่ง จึงไม่แปลกที่ไม่ว่า เสียงประกาศที่ดังมาจากฝั่งเพื่อไทย หรือก้าวไกลก็ตาม ว่าที่รัฐบาลใหม่ ในมุมมองสองพรรคจะเริ่มต้นขึ้นด้วยตัวเลข 300 คนอัพ แค่สองพรรครวมกันก็ครองเสียงส่วนใหญ่ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีจำนวนเต็ม 500 คน

ประเด็นปัญหา โจทย์ใหญ่ ของปีกนี้ คือ การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี บทเฉพาะกาล รัฐธรรมนูญกำหนดให้ภายใน 5 ปีแรกนั้น ต้องกระทำในที่ประชุมร่วมสองสภา ซึ่งมีองค์ประกอบ แบ่งเป็น ส.ส.จากการเลือกตั้ง 500 คน และ ส.ว.แต่งตั้ง 250 คน

เกณฑ์การตัดสิน คือ ผู้ที่จะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสองสภารวมกัน เกินกึ่งหนึ่ง หรือที่จำนวน 376 คน

หากเพื่อไทย สามารถรวบรวมเสียง กระทั่งกลายเป็นเสียงข้างมากของสองสภารวมกัน ไม่ว่าจะได้แรงหนุนจากฝ่าย ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งด้วยกัน หรือ ส.ว.ก็ตาม ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อย เนื่องจากหากชนะเลือกตั้งตามเป้าหมาย ย่อมมีต้นทุน ความชอบธรรม ทางการเมือง ที่สมาชิกรัฐสภา ไม่อาจโหวตฝืนกระแสความต้องการได้ อันจะทำให้ เพื่อไทย ยึดครองเก้าอี้นายกฯได้ทันที

ส่วนแคนดิเดต ที่จะมาเป็นตัวจริง ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้น ทั้งอิ๊ง-เศรษฐา ต่างประกาศความพร้อม และแม้ต้นสังกัดยังไม่แถลงทางการ มอบหมาย ชาย หรือ หญิง ขึ้นแท่นนายกฯ แต่เปอร์เซ็นต์จะออก ที่ “อุ๊งอิ๊ง” สูงมาก เนื่องจากเป็นนักธุรกิจ มือบริหารจัดการ สอด คล้องกับนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่มุ่งเน้น ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา ยกระดับปากท้อง

ประการสำคัญ คือเป็นทายาท ทักษิณ ชินวัตร แค่มองตา ก็รู้ใจ

บ้านใหญ่ วังบัวบาน โชว์พาว สนับสนุนเต็มที่ เส้นทางราบรื่น ยิ่งนัก สำหรับกับระเบิด อันตรายอันเป็นเรื่องที่ครอบครัวหวาดวิตก ซ้ำรอย คนวงในชี้ว่า เมื่อไหร่ก็ตาม ผลักดันทายาทนั่งนายกฯ แสดงว่ามีการเคลียร์พื้นที่ให้ปลอดภัย ระดับหนึ่งแล้ว

ไม่เช่นนั้นคงไม่ขานชื่อ “แพทองธาร” นายกฯคนที่ 30

แต่ “เศรษฐา” ก็ยังถือว่า อยู่ในตะกร้า หยิบจับของคนคุมอำนาจพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีความเหมาะสมเช่นกัน ที่จะมารัน ขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจเพื่อไทยอันเป็นจุดขายสำคัญ โปรไฟล์นักธุรกิจ มีดีกรีผู้ประสบควาามสำเร็จ การประกอบกิจการ บมจ.แสนสิริฯ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ดัง

ไม่อาจตัดทิ้งชื่อออก ละทิ้งสายตาไปจากแคนดิเดตคนนี้ได้เป็นอันขาด ขึ้นอยู่กับว่า สถานการณ์ ณ ขณะนั้น เพื่อไทยจะเลือกเล่นไพ่ใบไหน

สำหรับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ที่ประกาศความพร้อมเช่นกัน โอกาสลุ้นเก้าอี้น้อยกว่ามาก

ทั้งนี้ เนื่องจากจำนวน ส.ส.ที่คาดหมายว่าจะได้รับจากการเลือกตั้งอาทิตย์ 14 พฤษภาคม สองระบบรวมกันไม่ทะลุ 3 หลัก

พรรคที่เป็นเจ้าหลักการคนใหม่ อย่างก้าวไกล ซึ่งประกาศสนับสนุนพรรค ได้รับเลือกตั้งสูงสุด ตั้งรัฐบาลเป็นลำดับแรก คงไม่ไปทำขัดหลักการฝืนอาณัติประชาชน

ตัวเลข ส.ส.มันไม่เป็นใจ ให้ขยับขึ้น ต่อสู้แย่งชิงเป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาลคว้าตำแหน่งนายกฯ ข้ามฝั่งไปที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลปัจจุบัน-ขั้วเดิม น้ำหนักฝ่ายนี้ เทไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มือวางอันดับ 1 ได้ลุ้นเก้าอี้สูงสุด

กูรูการเมืองเชื่อว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเก็บ ส.ส.ฝ่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 25 เก้าอี้ คว้าตั๋วเข้าชิงนายกฯได้ไม่ยากที่เป็นอุปสรรค อาจเป็นเรื่องของความชอบธรรมทางการเมือง

ถ้า ส.ส.ในฝั่งรัฐบาล ได้ที่นั่งรวมกันไม่ถึงครึ่งหนึ่ง กลายเป็นเสียงข้างน้อยของสภาล่าง และยิ่งมีจำนวนห่างจากอีกฝ่ายมากเท่าใด ความชอบธรรมทางการเมือง ยิ่งลดน้อยถอยลง แม้ว่าจะมี ส.ว. 250 คน ที่ส่วนใหญ่มาจากการแต่งตั้งของกลไก คสช. เป็นนั่งร้านฐานรอง เคยโหวตสนับสนุนเป็นนายกฯมาแล้ว อย่างพร้อมเพรียงก็ตาม มิพักต้องเอ่ยถึง ว่าในฝั่งรัฐบาลด้วยกัน รวมไทยสร้างชาติ อาจไม่ใช่หัวขบวนฝั่งนี้ ตัวเลข ส.ส.เท่าที่ประเมินกัน เข้าที่สอง ที่สาม ด้วยซ้ำ

อันดับ 1 ตัวตึงคือ ภูมิใจไทย ฉะนั้น ‘บิ๊กตู่’ อาจตกที่นั่งลำบาก

อีกคน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แห่งพลังประชารัฐ แม้ยืดหยุ่น เป็นมือประสานยิ่งกว่า แต่ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

นั่นคือ จำนวน ส.ส.เป้าหมายจากการเลือกตั้ง ถึงผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำฉลุย แต่คงไม่อยู่ในระดับที่จะได้รับการอุ้มชูสู่ตำแหน่งนายกฯโดยง่าย

โจทย์ใหญ่เดียวกัน ฝั่งนี้คือ ไม่ว่า รวมเสียงก้อนเบิ้มไว้ที่ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม แม้กระทั่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็ตาม
หากจำนวนเสียง ส.ส.รวมกันไม่มากพอที่จะเทียบ แข่งอีกฝ่าย

โอกาสที่จะถึงฝั่งฝันนายกฯคนที่ 30 ต่ำมาก แม้ว่าเมื่อรวมกับเสียงของ ส.ว. อาจได้เกินครึ่งของสองสภารวมกัน มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ฝืนขัดเสียงตัดสินประชาชน ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ต้องคิดหนักแน่นอน

เมื่ออาจได้ไม่คุ้มเสีย มิหนำซ้ำยังเสี่ยง เข็นไปต่อไม่ได้ไกล

เปอร์เซ็นต์มือวางฝั่งขวา จะรักษาเก้าอี้

ฐานที่มั่นใหญ่ทำเนียบเอาไว้ได้ ว่ากันว่ายากยิ่ง

เว้นแต่ คดีพลิกมโหฬารข้ามคืน ฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางงานฉลองเท่านั้น

ว่าที่นายกฯคนที่ 30 ถึงจะเปลี่ยนมือ หลุดจากอุ๊งอิ๊ง ไปอยู่ที่ตัวตึง ขั้วเดิม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image