นักวิชาการกังวลเกมเปลี่ยน ‘ปิดสวิตช์ก้าวไกล’ เสียงแตกถ้าเป็นรัฐบาล คุมกระทรวงหลัก เปลี่ยนโครงสร้างระบบ หรือดูแรงงาน, พม.
สำหรับเวทีเลือกตั้ง’66 เปลี่ยนใหม่ หรือไปต่อ ช่อง 33 ที่ดำเนินรายการโดย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และนายกิตติ สิงหาปัด ตอนหนึ่ง นายสรยุทธได้หยิบประเด็นกรณีถ้าก้าวไกลมีแนวโน้มสูงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ก้าวไกลร่วมกับฝ่ายค้านปัจจุบัน คือเพื่อไทย เสรีรวมไทย ประชาชาติ พรรคก้าวไกลมีอำนาจต่อรองสูง กระทรวงที่ก้าวไกลดูแลน่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่เยอะได้พื้นที่เป็นกอบเป็นกำ นอกจาก กทม. คือตะวันออก ได้ทำกลุ่มประมงไว้ ดังนั้น ถ้าคุยคนก้าวไกล น่าจะดูกระทรวงแรงงาน, กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงพลังงาน ที่อยากให้ก้าวไกลดูคือกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ถ้าก้าวไกลนั่งกลาโหม คงจะมีปฏิวัติยาก ส่วนเกณฑ์ทหารสามารถผ่านกฎหมายธรรมดา
นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี ผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จุดใหญ่ของก้าวไกลคือต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทั้งระบบ คือทำถูกให้เป็นถูก ผิดให้เป็นผิด เอาผลประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง เคยได้ยินว่าจะดูกระทรวงหลักๆ ที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างได้ อาจเป็นคลัง, กลาโหม, ศึกษา, สาธารณสุข
นายอัครพงษ์ ค่ำคูณ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ กล่าวว่า ความกังวลใจมากๆ คือไม่ได้ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” แต่จะ “ปิดสวิตช์ก้าวไกล” ในกรณีพรรคอื่นๆ ไปรวมเสียงกัน หลังเลือกตั้งเป็นอีกเกมหนึ่ง จึงเป็นข้อกังวลพรรคก้าวไกล
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวว่า ก้าวไกลคนเลือกมาเพื่อความเปลี่ยนแปลง ถ้าเลือกกระทรวงเล็กๆ มันก็ไม่ และฟังจากปากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลคือ เลิกกัญชาเสรี
