หน.เพื่อไทยตอบแล้ว พร้อมจับมือ ‘ก้าวไกล’ ตั้งรัฐบาล แต่รอขันหมากสู่ขอเป็นทางการ
ภายหลังจากที่ปิดหีบ และ กกต.รายงานผลการเลือกตั้งปี 2566 อย่างไม่เป็นทางการ นับแล้ว 97% ซึ่งปรากฏว่า พรรคก้าวไกล มีคะแนนนำทั้งแบบแบ่งเขต และปาร์ตี้ลิสต์ โดยคะแนนบัญชีรายชื่อ มีคะแนน 13,479,745 คะแนน และ ส.ส.แบ่งเขต 113 ที่นั่ง
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ถึงแนวทางการจับมือพรรคก้าวไกล เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ว่า ผลคะแนนที่ออกมา แม้ยังไม่เป็นทางการ แต่เราต้องยอมรับ และขอแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกล และขอบคุณพี่น้องประชาชนด้วย เพราะเราเห็นความชัดเจนว่าฝ่ายประชาธิปไตย ชนะอย่างชัดเจนจริงๆ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยสงวนท่าที จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะเรียกว่าสงวนท่าทีคงไม่ได้ เมื่อผลคะแนนออกมาเป็นแบบนี้ เราต้องให้เกียรติพรรคอันดับหนึ่ง ถ้าจะไปประกาศก่อนว่าจะจับมือกับพรรคนู้น พรรคนี้ มันคงจะเป็นการเสียมารยาท ให้พรรคที่ได้อันดับหนึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้รับการติดต่อพูดคุยกับพรรคก้าวไกล เพราะเบื้องต้น พรรคก้าวไกล ต้องหารือกับกรรมการบริหารก่อน เราต้องฟังพรรคก้าวไกลก่อน ดังนั้น ต้องรอพรรคก้าวไกลพูดคุยเข้ามาก่อน
ส่วนถ้าพรรคก้าวไกลชวนจัดตั้งรัฐบาลมาพร้อมที่จะจับมือหรือไม่นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า “ต้องรอให้เขา พูดคุยเข้ามา”
ส่วนที่นายพิธาให้สัมภาษณ์ว่า การจัดตั้งรัฐบาล จะมีการทำ MOU เงื่อนไข โปร่งใสตามที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี มีความชัดเจน คือตกลงกันตั้งแต่เบื้องต้นเลยถ้าไปกันได้ในหลักการในเรื่องของนโยบาย แนวทางการทำงาน เพราะตอนนี้ต้องพูดถึงนโยบายที่เอามารวมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ถ้าเป็นไปในทางเดียวกัน หมายถึงความราบรื่น และมีเสถียรภาพของรัฐบาล ถ้าไปด้วยกันได้ก็เป็นข้อตกลงตั้งแต่แรกเริ่ม ดีกว่าที่จะไปหักกันตอนร่วมรัฐบาลกันแล้ว เพราะจะทำให้โอกาสของประเทศสูญเสียไป
พรรคเพื่อไทยได้คุยกับเบื้องต้นหรือไม่ว่ามีเงื่อนไขอะไรในการร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีการนัดประชุม 10.00 น. เพื่อวางแนวทางกัน
มีบางคนมองว่าถ้าเพื่อไทย และก้าวไกล จับมือกันไม่ได้ เพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลแข่ง นพ.ชลน่านกล่าวว่า “ไม่น่าจะมีความคิดอย่างนี้ เมื่อคืนเราก็ให้ข่าวไปว่าเรายึดหลักการให้พรรคที่ได้เสียงมากที่สุด เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราก็ดูท่าทีว่าเขาจะมีท่าทีต่อเราอย่างไร ในฐานะที่เราเป็นที่สอง MOU จะเป็นตัวบอกในการร่วมมือกันว่าจะได้หรือไม่ได้อย่างไร คงไม่มีการสงวนท่าทีเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแข่ง เบื้องต้นที่เราพูดคุยกันในกลุ่มของพรรคเพื่อไทย คือ เรายอมรับเสียงของพี่น้องประชาชน ให้เกียรติพี่น้องประชาชน เขามอบความไว้วางใจให้ก้าวไกล เราต้องให้ก้าวไกล เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราอยู่ในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
พรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยหรือไม่ว่าทำไมคะแนนไม่เป็นไปตามเป้า นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราพอทราบตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ติดตามการสำรวจโพลทุกสำนัก แต่กระแสช่วงท้ายๆ มันแรง การสื่อสารทางการเมืองที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด มันออกผลจริงๆ และสิ่งที่เขาต้องการที่สุด คือต้องการเปลี่ยน
