ครูหยุย ลั่น จบนะครับ ยึดหลักการเดียวกับยุคบิ๊กตู่ ใครรวมเสียงเกิน 250 นั่งนายกฯ งงใจสังคมจี้ ส.ว.

แฟ้มภาพ

ครูหยุย ยัน! ชัดเจนมาตลอด พร้อมเติมเสียงให้ฝั่งที่มีมากกว่า 250 ถามจะให้ใช้อำนาจหรืองดออกเสียงแน่?

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือครูหยุย สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘วัลลภ ครูหยุย ตังคณานุรักษ์’ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ตนชัดเจนตลอดมาว่าจะปิดสวิตช์ตนเองในการใช้สิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี

ความว่า

“ผมว่าผมชัดเจนมาโดยตลอดนะครับ ได้ให้สัมภาษณ์มาแต่ครั้งมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น 1 ใน 23 ส.ว. ที่ปิดสวิตช์ตนเองในการใช้สิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี แต่การที่สื่อนำไปลงสั้นๆ แค่นั้น น่าจะยังไม่ชัดเจนพอ

Advertisement

ขอนำมาสรุปให้ชัดขึ้นว่า คราวนั้น ผมให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า ใครรวมได้เสียงข้างมาก เกิน 250 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้เป็นนายกฯ ได้เป็นรัฐบาล ไม่มีใครขวางได้หรอกครับ เพราะครั้งที่พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ได้เป็นนายกฯ ก็ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ รวมเสียงได้เกิน 250 เสียง คราวนี้ก็ยึดหลักการเดียวกัน จบนะครับ คนถูกใจก็ไม่ต้องเขียนมาชม คนผิดหวังก็ไม่ต้องเขียนมาด่านะครับ”

ทั้งนี้ “ข่าวสด” รายงานเพิ่มเติมว่า นายวัลลภกล่าวว่า ส่วนตัวยึดหลักการใครที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้เกิน 250 เสียง ก็พร้อมเติมเสียงให้ฝ่ายนั้น ไม่ว่าจะเสนอชื่อใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะเป็นชื่อนายพิธา, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นายวัลลภแจงอีกว่า แต่คงไม่เกี่ยวกับ ส.ว.คนอื่นๆ เพราะไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะโหวตไปในทิศทางใด เนื่องจาก ส.ว.หลายคนก็คิดไม่เหมือนกัน

Advertisement

“ส่วนตัวก็งงกับเสียงเรียกร้องต่างๆ ที่มีต่อ ส.ว. ก่อนหน้าก็เรียกร้องให้ปิดสวิตช์ ส.ว. แก้ไขมาตรา 272 ไม่ให้มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ผมก็เป็น 1 ใน 23 ส.ว.ที่ลงมติให้ปิดสวิตช์ ส.ว. แต่แพ้เสียงข้างมาก แต่มาล่าสุดกลับเรียกร้องให้ ส.ว.ใช้อำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ห้ามงดออกเสียง ตกลงจะเอายังไงกันแน่” นายวัลลภกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image